บทความโดย นพ.วัฒนา บุญสม
ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม
ปวดกรามไม่ใช่เรื่องเล็ก อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ
หลายคนที่มีอาการปวดกราม อาจคิดว่าเป็นเรื่องของฟัน ขากรรไกร หรือข้อต่อ แต่ในบางกรณี “ปวดกราม” อาจเป็น อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ ภาวะหัวใจขาดเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่หัวใจวายเฉียบพลันได้
ที่น่ากังวลคือ อาการปวดกรามจากโรคหัวใจมักเกิดโดย ไม่มีอาการเจ็บหน้าอก ทำให้หลายคนมองข้ามและไม่ได้ตรวจหัวใจอย่างทันท่วงที
อ่านเพิ่มเติม
ปวดกรามจากโรคหัวใจเกิดจากอะไร?
หัวใจและกรามมีเส้นประสาทที่เชื่อมโยงกันผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ ดังนั้นเมื่อหัวใจมีปัญหา เช่น หลอดเลือดตีบหรือขาดเลือด ระบบประสาทอาจ “ส่งสัญญาณเตือน” ไปยังบริเวณอื่น เช่น กราม ลำคอ หรือไหล่ โดยเฉพาะในช่วงที่หัวใจต้องทำงานหนัก เช่น ขณะออกแรง เดินเร็ว หรือขึ้นบันได
เปรียบเหมือนรถยนต์ที่มีปัญหา แต่ไฟเตือนขึ้นที่ตำแหน่งอื่น ไม่ใช่เครื่องยนต์โดยตรง หัวใจก็เช่นกัน บางครั้งไม่ได้เตือนผ่านอาการเจ็บหน้าอก แต่ส่งสัญญาณไปที่กรามแทน
แยกความต่าง: ปวดกรามจากหัวใจ VS ปวดกรามจากฟัน
ลักษณะอาการ | ปวดกรามจากฟัน/ข้อต่อ | ปวดกรามจากหัวใจ |
ตำแหน่ง | มักปวดข้างเดียว | มักปวดทั้งสองข้าง หรือร้าวไปคอ ไหล่ แขน |
ช่วงเวลา | ปวดเมื่อเคี้ยว ขยับกราม | ปวดขณะออกแรง เดิน ขึ้นบันได |
ลักษณะความรู้สึก | ปวดตื้อ ๆ หรือเสียวฟัน | ปวดลึก หนัก เหมือนถูกกดทับ |
อาการร่วม | ปวดฟัน ข้อต่ออักเสบ หูอื้อ | เหนื่อยง่าย เหงื่อออก หายใจไม่ทัน |
ดีขึ้นเมื่อพัก? | มักดีขึ้นเมื่อหยุดใช้กราม | ไม่ดีขึ้น และอาจแย่ลงเมื่อออกแรง |
หากปวดกรามร่วมกับอาการอื่น เช่น เหนื่อยง่าย หน้ามืด หรือเจ็บร้าวไปแขนซ้าย ควรรีบพบแพทย์ทันที
สัญญาณเตือนที่ควรระวัง
หากคุณมีอาการปวดกรามร่วมกับอาการเหล่านี้ ควร รีบพบแพทย์เฉพาะทางหัวใจทันที:
- ปวดร้าวไปคอ กราม ไหล่ หรือแขน (โดยเฉพาะแขนซ้าย)
- หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- เจ็บแน่นกลางอก หรือเหมือนมีอะไรมากดทับ
- หน้ามืด เหงื่อออกมากผิดปกติ
- คลื่นไส้ อาเจียน โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ?
แม้ทุกคนมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้ แต่กลุ่มต่อไปนี้ควรตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ:
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันสูง
- ผู้สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือมีความเครียดสะสม
- ผู้มีน้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย
- ผู้สูงอายุ (โดยเฉพาะชาย >45 ปี และหญิง >55 ปี)
วิธีตรวจหัวใจ: รู้ให้ชัดว่าหัวใจคุณโอเคไหม
การตรวจหัวใจในปัจจุบันมีความแม่นยำสูง และไม่เจ็บตัว โดยการตรวจที่แนะนำ ได้แก่:
- EKG (คลื่นไฟฟ้าหัวใจ): ตรวจการเต้นและจังหวะผิดปกติ
- Echocardiogram (อัลตร้าซาวด์หัวใจ): ดูโครงสร้างและการบีบตัวของหัวใจ
- Exercise Stress Test: ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกแรง
- CT Coronary Angiography: ตรวจหลอดเลือดหัวใจตีบโดยไม่ต้องฉีดสี
- Coronary Angiography: การฉีดสีสวนหัวใจ ดูความตีบของหลอดเลือดอย่างละเอียด
วิธีดูแลหัวใจ ป้องกันก่อนป่วยจริง
- รับประทานอาหารลดเค็ม ลดไขมัน เพิ่มผักผลไม้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ อย่างน้อย 30 นาที/วัน)
- เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพหัวใจปีละครั้ง โดยเฉพาะถ้ามีปัจจัยเสี่ยง
- จัดการความเครียด เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ และทำกิจกรรมที่ชอบ
ปวดกรามไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจเสมอไป แต่ถ้าเกิดบ่อย หรือร่วมกับอาการผิดปกติ อย่ารอจนสาย ควรเข้ารับการตรวจหัวใจเพื่อความมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ปวดกรามสองข้าง ต้องกังวลเรื่องหัวใจไหม?
A: หากปวดกรามร่วมกับเหนื่อยง่าย หรือออกแรงแล้วปวดมากขึ้น ควรตรวจหัวใจเพื่อความปลอดภัย
Q: ปวดกรามแต่ไม่มีอาการอื่น ควรตรวจหัวใจไหม?
A: หากปวดเรื้อรัง ไม่ทราบสาเหตุ และไม่ดีขึ้นแม้รักษาฟัน อาจเกี่ยวข้องกับหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
Q: ตรวจหัวใจแบบไหนแม่นยำที่สุด?
A: CT Coronary Angiography และการฉีดสีสวนหัวใจเป็นการตรวจหลอดเลือดหัวใจโดยตรง มีความแม่นยำสูง
Q: ตรวจหัวใจที่ไหนดี ใกล้บ้าน?
A: แนะนำศูนย์หัวใจวิชัยเวชฯ หนองแขม มีแพทย์เฉพาะทาง เครื่องมือครบ และตรวจได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ตรวจหัวใจแบบครบวงจร กับศูนย์หัวใจวิชัยเวชฯ หนองแขม
หากคุณมีอาการปวดกรามที่น่าสงสัย เหนื่อยง่าย หรือมีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ อย่ารอให้หัวใจส่งสัญญาณรุนแรง
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม ให้บริการตรวจและดูแลหัวใจโดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมเครื่องมือทันสมัย เช่น EKG, Echo, CT หลอดเลือดหัวใจ
สะดวกเดินทางจาก พุทธมณฑล บางแค เพชรเกษม อ้อมน้อย หนองแขม
นัดหมายแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97