EST วิ่งสายพาน (Exercise Stress Test – EST) หรือที่เรียกกันว่า การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย เป็นการทดสอบเพื่อประเมินการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย โดยใช้ ลู่วิ่ง หรือจักรยานอยู่กับที่ พร้อมติดอุปกรณ์ตรวจวัดสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – EKG) รวมถึงวัดค่าต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และระดับออกซิเจนในเลือด เพื่อดูว่าหัวใจสามารถตอบสนองต่อการออกกำลังกายได้ดีเพียงใด และช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยปัญหาหัวใจที่อาจเกิดขึ้นได้
วัตถุประสงค์ของการตรวจ EST วิ่งสายพาน
การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพานมีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
- ตรวจหาภาวะหัวใจขาดเลือด (Coronary Artery Disease – CAD)
- ประเมินความสามารถของหัวใจในการสูบฉีดเลือด
- ตรวจสอบปัญหาของลิ้นหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจ
- ประเมินภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)
- วางแผนการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัด
ใครควรเข้ารับการตรวจ EST วิ่งสายพาน?
การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหรือภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ได้แก่
- มีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย หรือหายใจลำบาก
- มีอาการใจสั่น หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- มีโรคประจำตัวที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือด
ต้องการตรวจสุขภาพหัวใจก่อนเริ่มออกกำลังกายอย่างหนัก
ขั้นตอนการตรวจEST วิ่งสายพาน
1. การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนตรวจ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนตรวจ
- สวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายบนลู่วิ่ง
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่ เนื่องจากบางชนิดอาจต้องงดก่อนตรวจ
2. ขั้นตอนระหว่างการตรวจ
- เจ้าหน้าที่จะติดอุปกรณ์ตรวจวัดสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ (EKG) บนหน้าอก แขน และขา
- วัดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ
- เริ่มเดินบนสายพานหรือปั่นจักรยาน โดยความเร็วและความชันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก หรือหายใจไม่ทัน สามารถแจ้งแพทย์ให้หยุดการตรวจได้ทันที
3. หลังการตรวจ
- เจ้าหน้าที่จะเฝ้าสังเกตอาการและวัดค่าต่างๆ จนกว่าหัวใจจะกลับมาเต้นเป็นปกติ
- ผู้เข้ารับการตรวจสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
ผลการตรวจและแนวทางการรักษา
- ผลปกติ: หัวใจสามารถทำงานได้ดีภายใต้สภาวะออกกำลังกาย ไม่มีสัญญาณของโรคหัวใจขาดเลือดหรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ผลผิดปกติ: อาจพบภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรือปัญหาทางหัวใจอื่นๆ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น Echocardiogram หรือ Stress Test เช่น Cardiac MRI
ความปลอดภัยของการตรวจ EST วิ่งสายพาน
โดยทั่วไป การตรวจวิ่งสายพานเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่มีภาวะหัวใจรุนแรง อาจเกิดอาการเจ็บหน้าอก ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ แต่ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการฉุกเฉินพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
บทสรุป
การตรวจ EST วิ่งสายพาน เป็นการตรวจสมรรถภาพหัวใจที่สำคัญ ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและประเมินภาวะของหัวใจได้อย่างแม่นยำ หากคุณมีอาการที่น่าสงสัยหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
บทความโดย
นพ. ชัยยศ ศิริวิบุลยกิตติ
แพทย์ประจำศูนย์หัวใจและหลอดเลือด
ติดต่อศูนย์หัวใจวิชัยเวช 24 ชั่วโมง
เราพร้อมให้การดูแล รักษา ป้องกันครอบคลุมโรคหัวใจทั่วไป
และโรคหัวใจในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา