ทำบอลลูนหัวใจแล้ว หลอดเลือดจะตีบซ้ำไหม?

บทความโดย
นพ.วัฒนา บุญสม
ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช

หลายคนที่เพิ่งเข้ารับการทำบอลลูนหัวใจ หรือกำลังวางแผนรักษาด้วยวิธีนี้ อาจมีคำถามว่า “หลังทำบอลลูนหัวใจแล้ว หลอดเลือดจะตีบซ้ำได้ไหม?” คำถามนี้สำคัญมาก เพราะแม้การทำบอลลูนหัวใจจะช่วยเปิดหลอดเลือดที่ตีบตันให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหมดไปตลอดชีวิต
บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจว่า ทำไมหลอดเลือดหัวใจถึงมีโอกาสตีบซ้ำได้ ปัจจัยเสี่ยงคืออะไร และที่สำคัญที่สุด เราจะป้องกันได้อย่างไร

การทำบอลลูนหัวใจคืออะไร?

การทำบอลลูนหัวใจ (Balloon Angioplasty) เป็นหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยแพทย์จะใช้สายสวนขนาดเล็กสอดเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ แล้วขยายจุดที่ตีบด้วยบอลลูน เพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น
ในหลายกรณี แพทย์จะใส่ขดลวด (Stent) ซึ่งเป็นโครงตาข่ายโลหะขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้หลอดเลือดเปิดค้าง ลดโอกาสตีบซ้ำในอนาคต

หลอดเลือดจะตีบซ้ำไหมหลังทำบอลลูนหัวใจ?

คำตอบคือ: มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน
โดยทั่วไป หลอดเลือดหัวใจอาจตีบซ้ำได้หลังทำบอลลูน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:

1. ชนิดของขดลวดที่ใช้

  • ขดลวดธรรมดา (Bare Metal Stent – BMS): เสี่ยงตีบซ้ำประมาณ 20–30%
  • ขดลวดเคลือบยา (Drug-Eluting Stent – DES): ลดความเสี่ยงลงเหลือประมาณ 5–10%

2. พฤติกรรมหลังทำบอลลูนหัวใจ

  • สูบบุหรี่ ทานอาหารมัน ออกกำลังกายไม่เพียงพอ = เสี่ยงตีบซ้ำสูงขึ้น
  • หากดูแลสุขภาพดี หลอดเลือดจะตีบซ้ำน้อยลง

3. โรคร่วมของผู้ป่วย

  • ผู้ที่มี เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป

4. ตำแหน่งของหลอดเลือดที่ทำบอลลูน

  • หากเป็นเส้นเลือดเส้นเล็ก หรือมีแขนงเยอะ อาจเสี่ยงตีบซ้ำมากกว่า

5. การรับประทานยาหลังทำบอลลูน

  • ต้องรับประทานยา ต้านเกล็ดเลือด อย่างเคร่งครัด เช่น แอสไพริน, Clopidogrel
  • หากหยุดยาเอง อาจเกิด ภาวะขดลวดอุดตัน และหัวใจวายเฉียบพลันได้

วิธีป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหัวใจตีบซ้ำ

1. ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด

  • ลดอาหารทอด ของมัน เนื้อสัตว์แปรรูป
  • เพิ่มผัก ผลไม้ กรดไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ถั่ว อะโวคาโด

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือคาร์ดิโอเบาๆ วันละ 30 นาทีขึ้นไป

3. เลิกบุหรี่และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

  • บุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัว และเพิ่มความเสี่ยงตีบซ้ำ
  • แอลกอฮอล์มากเกินไปทำให้ความดันสูงและหลอดเลือดเสื่อมเร็ว

4. ควบคุมโรคประจำตัว

  • รักษาเบาหวาน ความดัน ไขมันให้อยู่ในเกณฑ์
  • ตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

5. ทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดยาเอง

  • ห้ามหยุดยาต้านเกล็ดเลือดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

สรุป: การทำบอลลูนหัวใจช่วยได้ แต่ยังต้องดูแลต่อเนื่อ

แม้การทำบอลลูนหัวใจจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ไม่ได้แปลว่า “หายขาดถาวร” หากยังมีพฤติกรรมเสี่ยงเดิม ๆ หรือไม่ควบคุมโรคร่วม หลอดเลือดก็มีโอกาสตีบซ้ำได้

คำแนะนำจากแพทย์:

การป้องกันดีที่สุดคือ ปรับพฤติกรรม ควบคุมโรค และปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด

บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ทำบอลลูนหัวใจอยู่ได้กี่ปี?
A: ขึ้นอยู่กับชนิดของขดลวดและพฤติกรรมของผู้ป่วย โดยเฉลี่ย 5–10 ปี หรือมากกว่านั้น หากดูแลตัวเองดี

Q: หลังทำบอลลูนหัวใจสามารถขึ้นเครื่องบินได้ไหม?
A: โดยทั่วไปสามารถขึ้นเครื่องบินได้หลังพักฟื้นประมาณ 1–2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอาการและคำแนะนำจากแพทย์

Q: จำเป็นต้องใส่ขดลวดทุกคนไหม?
A: ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับลักษณะของหลอดเลือดและดุลยพินิจของแพทย์

สอบถามหรือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหัวใจ

หากคุณหรือคนในครอบครัวเพิ่งทำบอลลูนหัวใจ และต้องการแนวทางดูแลหรือป้องกันหลอดเลือดตีบซ้ำ ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจร

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97

Line