หัวใจวายเกิดขึ้นได้อย่างไร? สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

บทความโดย
นพ.เรวัตร จงพิพิธพร
แพทย์เฉพาะทาง ศูนย์หัวใจวิชัยเวช

ลองจินตนาการว่าคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังใช้ชีวิตตามปกติ แต่จู่ๆ ก็รู้สึก แน่นหน้าอก เหงื่อแตกเย็น หายใจติดขัด และเวียนหัวจนแทบทรงตัวไม่อยู่ อาการเหล่านี้อาจเป็น สัญญาณเตือนของ “หัวใจวาย” (Heart Attack หรือ Myocardial Infarction – MI) ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและอันตรายถึงชีวิต

ข่าวดีคือ ภาวะหัวใจวายสามารถป้องกันได้ หากเรารู้เท่าทัน สาเหตุ และ ปัจจัยเสี่ยง รวมถึงตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

หัวใจวายเกิดขึ้นได้อย่างไร?

หัวใจวายเกิดจาก เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ทำให้หัวใจขาดออกซิเจนและกล้ามเนื้อหัวใจเริ่มตายลงอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาในเวลาอันสั้น อาจนำไปสู่หัวใจล้มเหลวหรือเสียชีวิต

สาเหตุหลักมักมาจาก การตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery) ซึ่งมักเกิดจากการสะสมของคราบไขมัน (Plaque) ภายในผนังหลอดเลือด เมื่อคราบไขมันแตกออก ร่างกายจะสร้างลิ่มเลือด (Blood Clot) มาปิดซ่อม แต่กลับไปอุดกั้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดหัวใจวายอย่างเฉียบพลัน

สาเหตุหลักของหัวใจวาย

  1. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease – CAD) 

คราบไขมันสะสมในผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดตีบแคบและการไหลเวียนเลือดลดลง

  1. ลิ่มเลือดอุดตัน
    เมื่อคราบไขมันแตก เกล็ดเลือดจะเกาะตัวกันจนกลายเป็นลิ่มเลือด และไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจทันที
  2. หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง (Arrhythmia) 
    จังหวะหัวใจที่ผิดปกติอาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี จนกระทั่งเกิดหัวใจวาย
  3. ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชั่วคราว (Ischemia)
    เกิดจากหลอดเลือดตีบหรือหดตัว ทำให้หัวใจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
  4. หลอดเลือดหัวใจหดตัว (Coronary Spasm)
    หลอดเลือดหัวใจบีบรัดตัวเองชั่วขณะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลง

ปัจจัยเสี่ยงของหัวใจวาย

ปัจจัยที่ควบคุมได้

  • ความดันโลหิตสูง ทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหายและตีบง่าย
  • ไขมันในเลือดสูง สะสมเป็นคราบพลัคในผนังหลอดเลือด
  • เบาหวาน ระดับน้ำตาลสูงทำให้หลอดเลือดเสื่อมเร็ว
  • สูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดและหลอดเลือดตีบ
  • โรคอ้วน / น้ำหนักเกิน เพิ่มโอกาสเกิดความดันสูงและเบาหวาน
  • ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดแย่ลง
  • กินอาหารไขมันสูง น้ำตาล และเกลือมากเกินไป
  • ความเครียดเรื้อรัง ทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันสูง
  • ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

  • อายุ: ชาย >45 ปี, หญิง >55 ปี
  • เพศ: ผู้ชายเสี่ยงสูงกว่า แต่ผู้หญิงเสี่ยงเพิ่มหลังหมดประจำเดือน
  • กรรมพันธุ์: ครอบครัวมีประวัติโรคหัวใจ
  • โรคประจำตัวบางชนิด: โรคไตเรื้อรัง, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

วิธีป้องกันหัวใจวาย

  • ปรับพฤติกรรมการกิน: ลดอาหารมัน น้ำตาล และเกลือ เลือกอาหารที่ดีต่อหัวใจ เช่น ปลา ผัก ผลไม้
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วัน/สัปดาห์
  • เลิกบุหรี่และจำกัดแอลกอฮอล์
  • จัดการความเครียด: ทำสมาธิหรือกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
  • ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ: โดยเฉพาะผู้มีปัจจัยเสี่ยง

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Q: อาการเตือนหัวใจวายมีอะไรบ้าง?
A: แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เหงื่อออกเย็น คลื่นไส้ หน้ามืด หรือปวดร้าวไปแขน ควรรีบพบแพทย์ทันที

Q: หัวใจวายกับหัวใจล้มเหลวต่างกันไหม?
A: ต่างกัน หัวใจวายเกิดเฉียบพลัน ส่วนหัวใจล้มเหลวเป็นภาวะที่หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่พอในระยะยาว

Q: ตรวจหัวใจบ่อยแค่ไหน?
A: ควรตรวจปีละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้ามีความเสี่ยงสูง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูแลหัวใจของคุณที่ ศูนย์หัวใจ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจและหลอดเลือด พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), เอกซเรย์หัวใจ, การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiogram) และ CT Coronary Angiography เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างแม่นยำ

✅ ตรวจสุขภาพหัวใจ
✅ ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ
✅ วางแผนการรักษาและติดตามอย่างใกล้ชิด

📍 ใกล้คุณในพื้นที่ หนองแขม, บางแค, พุทธมณฑล, อ้อมน้อย, สามพราน

ติดต่อศูนย์หัวใจวิชัยเวช 24 ชั่วโมง
เราพร้อมให้การดูแล รักษา ป้องกันครอบคลุมโรคหัวใจทั่วไป
และโรคหัวใจในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน

02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97

Line