หัวใจเต้นแปลก ๆ ใช่ไหม? รู้ทันหัวใจเต้นผิดจังหวะ สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

โดย นพ.ปริวัตร เพ็งแก้ว
แพทย์ประจำศูนย์หัวใจวิชัยเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม

หลายคนอาจจะเคยมีอาการ จู่ ๆ รู้สึกว่า หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เหมือนวิ่งโดยไม่ได้ออกแรง หรือบางครั้งกลับเต้นช้าเกินไปจนรู้สึก เวียนหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม บางคนอาจรู้สึกเหมือน หัวใจสะดุด หยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง อาการเหล่านี้ทำให้หลายคนกังวลว่า หัวใจของตัวเองกำลังมีปัญหาหรือเปล่า? มาทำความรู้จักโรคนี้กันแบบเข้าใจง่าย ๆ

หัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไร?
หัวใจของเรามีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ซึ่งต้องทำงานอย่างเป็นจังหวะเหมือนเครื่องยนต์ที่เดินเรียบ แต่เมื่อใดก็ตามที่หัวใจเต้นเร็วเกินไป ช้ากว่าปกติ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) อาการนี้อาจเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเอง หรือในบางกรณีอาจเป็นปัญหาระยะยาวที่ต้องได้รับการรักษา หลายคนอาจรู้สึกใจสั่นเหมือนหัวใจกระตุก หรือบางครั้งรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบา ๆ ในหน้าอก ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลไม่น้อย

สาเหตุของหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ภาวะนี้เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าภายในหัวใจ ลองนึกภาพว่าหัวใจของเราทำงานคล้ายกับระบบเดินสายไฟในบ้าน เมื่อกระแสไฟฟ้าส่งสัญญาณผิดพลาดหรือขาด ๆ หาย ๆ ไฟก็อาจกระพริบหรือดับเป็นช่วง ๆ เช่นเดียวกัน เมื่อกระแสไฟฟ้าภายในหัวใจผิดปกติ ก็อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

ความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด ลิ้นหัวใจรั่ว หรือกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ

  • ความผิดปกติของหัวใจเอง เช่น มีเส้นทางลัดในการเกิดกระแสไฟฟ้าหัวใจที่สร้างขึ้นมาเอง ไม่เกี่ยวกับปัจจัยภายนอก ซึ่งพบได้น้อยมาก
  • โรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์เป็นพิษ หรือเบาหวาน
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนมากเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียดสะสม
  • ยาและสารกระตุ้น เช่น ยาลดน้ำมูกบางชนิด ยาลดน้ำหนัก หรือสารเสพติด
  • กรรมพันธุ์ หากมีคนในครอบครัวเคยเป็นภาวะนี้ ก็อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน

อาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะ

อาการของภาวะนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนอาจไม่รู้ตัวเลยว่ามีอาการ จนกระทั่งไปตรวจสุขภาพแล้วพบความผิดปกติ แต่บางคนอาจมีอาการชัดเจน เช่น

  • ใจสั่น รู้สึกเหมือนหัวใจกระตุก หรือเต้นแรงผิดปกติ
  • หัวใจเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ แม้ไม่ได้ออกแรง
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหมดสติ เพราะหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
  • เหนื่อยง่าย แม้ทำกิจกรรมที่เคยทำได้ปกติ
  • เจ็บหน้าอก หรือรู้สึกแน่นบริเวณหน้าอก

หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา

วิธีการรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ

วิธีรักษาขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ในบางกรณีอาจไม่ต้องรักษาหากไม่มีอาการรุนแรง แต่หากอาการส่งผลต่อคุณภาพชีวิตหรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน จำเป็นต้องได้รับการรักษา

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ปรับไลฟ์สไตล์ เช่น

  • ลดการบริโภคคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และสารกระตุ้นอื่น ๆ
  • จัดการความเครียดด้วยการออกกำลังกาย ฝึกหายใจ หรือทำสมาธิ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้หัวใจทำงานหนัก

2. ใช้ยาเพื่อควบคุมจังหวะหัวใจ
แพทย์อาจให้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ เช่น

  • ยาต้านการเต้นผิดจังหวะ (Antiarrhythmic Drugs) ช่วยปรับการทำงานของสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ
  • ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ (Beta-blockers, Calcium Channel Blockers) ลดอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ
  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง

3. การจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation)
หากการใช้ยาไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยไม่ต้องการกินยาไปตลอดชีวิต แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธี จี้ไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งเป็นการใช้สายสวนขนาดเล็กสอดเข้าไปในหัวใจผ่านทางหลอดเลือด แล้วใช้พลังงานความร้อนหรือความเย็นทำลายจุดที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ

วิธีนี้คล้ายกับการซ่อมระบบไฟในบ้านที่มีสายไฟชำรุด โดยตัดหรือปิดกั้นสายที่ผิดพลาดเพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้อย่างปกติ

4. การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจ (ICD)
ในกรณีที่หัวใจเต้นช้ากว่าปกติหรือมีภาวะเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้น แพทย์อาจแนะนำให้ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเพื่อช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ

หัวใจเต้นผิดจังหวะอันตรายแค่ไหน?

แม้ว่าภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิดอาจไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่บางกรณีอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากลิ่มเลือดที่อาจก่อตัวในหัวใจและไปอุดตันหลอดเลือดสมอง
  • ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หากหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง

ดังนั้น หากมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจฟังดูน่ากังวล แต่หากเข้าใจและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมก็สามารถควบคุมได้ การตรวจสุขภาพหัวใจเป็นระยะ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลหัวใจให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะที่ดีอีกครั้ง


ติดต่อศูนย์หัวใจวิชัยเวช 24 ชั่วโมง
เราพร้อมให้การดูแล รักษา ป้องกันครอบคลุมโรคหัวใจทั่วไป
และโรคหัวใจในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

 

Line