โดย นพ.ปริวัตร เพ็งแก้ว
แพทย์ประจำศูนย์หัวใจวิชัยเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
ผู้ป่วยหลายคนที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจจะเข้ารับการรักษาด้วยการกินยาควบคุมจังหวะหัวใจ แต่ปัญหาคือ ต้องกินยาต่อเนื่องไปตลอดชีวิต เพื่อควบคุมอาการ เนื่องจากผู้ป่วยยังคงมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอยู่ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ถือว่ามีประสิทธิภาพ ในการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ คือ เทคโนโลยีการจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation) ซึ่งกำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ล้ำสมัย และสามารถช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมาก หายขาดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ได้ โดยไม่ต้องพึ่งยาอีกต่อไป
การจี้ไฟฟ้าหัวใจคืออะไร?
หัวใจของเรามีระบบไฟฟ้าในตัวเองที่ทำหน้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ ถ้าระบบนี้ทำงานผิดพลาด หรือมีทางเดินไฟฟ้าที่ผิดปกติ หัวใจอาจเต้นเร็วเกินไป หรือเต้นสะดุด ทำให้เกิดอาการใจสั่น หายใจติดขัด เวียนศีรษะ หน้ามืด หมดสติ และหัวใจล้มเหลวได้
การจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหานี้โดยตรง แพทย์จะใช้สายสวนขนาดเล็ก (Catheter) สอดเข้าไปในหัวใจผ่านทางหลอดเลือดที่ขาหนีบ แล้วใช้ พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Ablation) หรือ พลังงานเย็น (Cryoablation) เพื่อทำลายจุดที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ เมื่อกำจัดจุดที่เป็นปัญหาแล้ว หัวใจก็สามารถกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติได้
เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนกับการแก้ปัญหาสายไฟในบ้าน ถ้ามีสายไฟที่ทำงานผิดปกติทำให้ไฟกระพริบหรือดับ ๆ ติด ๆ เราก็แค่ตัดหรือซ่อมแซมจุดที่มีปัญหา ระบบไฟฟ้าก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ในปัจจุบัน
ปัจจุบันการจี้ไฟฟ้าหัวใจมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น
- 3D Mapping System เทคโนโลยีสร้างภาพสามมิติของหัวใจแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์มองเห็นการเคลื่อนไหวของหัวใจและจุดที่มีปัญหาได้อย่างชัดเจน เพิ่มความแม่นยำในการรักษา
- High-Power Short-Duration Ablation ใช้พลังงานสูงขึ้นแต่ใช้เวลาสั้นลง ลดโอกาสที่เนื้อเยื่อหัวใจจะได้รับความเสียหายมากเกินไป
- Pulsed Field Ablation (PFA) เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแรงสูงแบบพัลส์ ช่วยทำลายเซลล์ที่ผิดปกติได้โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อปกติรอบ ๆ
- Cryoablation หรือการใช้พลังงานเย็นแทนคลื่นวิทยุ เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้การจี้ไฟฟ้าหัวใจ รวดเร็ว ปลอดภัย และได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม
การจี้ไฟฟ้าหัวใจดีกว่าการใช้ยาอย่างไร?
- โอกาสหายขาดสูง
การกินยาช่วยควบคุมอาการได้ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ขณะที่การจี้ไฟฟ้าหัวใจสามารถกำจัดจุดที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติได้อย่างถาวร มีโอกาสหายขาดสูงถึง 70-95% ขึ้นอยู่กับประเภทของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ - ไม่ต้องกินยาตลอดชีวิต
ผู้ที่รักษาด้วยยาอาจต้องกินยาไปตลอดชีวิต และบางรายอาจมีผลข้างเคียงจากยา เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือมีปัญหาต่อไตและตับ แต่การจี้ไฟฟ้าหัวใจทำให้หลายคนสามารถ หยุดใช้ยาได้เลย
3. ปลอดภัย และฟื้นตัวเร็ว
แม้ว่าการจี้ไฟฟ้าหัวใจจะเป็นหัตถการ แต่ก็ ไม่ใช่การผ่าตัดเปิดหัวใจ โดยทั่วไปใช้เวลาทำประมาณ 2-4 ชั่วโมง และผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ใน 1 วัน หรือพักฟื้นไม่เกิน 1 สัปดาห์
4. ลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยเฉพาะ Atrial Fibrillation (AF) สามารถเพิ่มความเสี่ยงของ โรคหลอดเลือดสมอง ได้ถึง 5 เท่า เพราะเลือดอาจคั่งอยู่ในหัวใจและเกิดลิ่มเลือดขึ้นมาได้ การจี้ไฟฟ้าหัวใจช่วยลดความเสี่ยงนี้ลงได้อย่างมาก
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการจี้ไฟฟ้าหัวใจ?
- ผู้ที่เป็น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเรื้อรัง และรักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล
- ผู้ที่มีอาการใจสั่น แน่นหน้าอก เวียนศีรษะ หรือหมดสติบ่อย ๆ
- ผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งพายาระยะยาวหรือมีผลข้างเคียงจากยา
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง
การเตรียมตัวก่อนจี้ไฟฟ้าหัวใจ
- งดน้ำและอาหารก่อนทำตามที่แพทย์แนะนำ
- หยุดยาบางชนิดชั่วคราว โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือเคยมีอาการแพ้ยา
เทคโนโลยีจี้ไฟฟ้าหัวใจ ช่วยให้คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ และไม่อยากพึ่งยาไปตลอดชีวิต การจี้ไฟฟ้าหัวใจ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย และได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม โอกาสหายขาดสูง
หากมีอาการใจสั่นบ่อย ๆ หรือสงสัยว่าตัวเองอาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลาสามารถช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ติดต่อศูนย์หัวใจวิชัยเวช 24 ชั่วโมง
เราพร้อมให้การดูแล รักษา ป้องกันครอบคลุมโรคหัวใจทั่วไป
และโรคหัวใจในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา