บทความโดย
นพ.เรวัตร จงพิพิธพร
แพทย์เฉพาะทาง ศูนย์หัวใจวิชัยเวช
หัวใจวาย หรือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบช่วยเหลือทันที เพราะทุกนาทีคือหัวใจและชีวิตของผู้ป่วย หากรักษาเร็ว โอกาสรอดสูง แต่หากช้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจเสียชีวิตหรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวถาวรได้
บทความนี้จะพามารู้จัก ขั้นตอนการรักษาหัวใจวาย ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดอาการ จนถึงการดูแลหลังฟื้นตัว เพื่อให้คุณและคนใกล้ตัวมีโอกาสรอดสูงที่สุด
อ่านเพิ่มเติม ภัยเงียบกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
หัวใจวายคืออะไร?
หัวใจวายไม่ได้หมายความว่าหัวใจหยุดเต้นทันที แต่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนขาดเลือดจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เซลล์หัวใจเสียหาย และหากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือเสียชีวิต
อาการเตือนหัวใจวายที่ควรรู้ทัน
- เจ็บหรือแน่นหน้าอก ร้าวไปแขนซ้าย คอ กราม หรือหลัง
- เหงื่อออกมาก ตัวเย็น หน้ามืด
- หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หมดสติ
อ่านเพิ่มเติม สัญญาณเตือนหัวใจล้มเหลว ที่ควรรู้
ขั้นตอนการรักษาหัวใจวาย
- นาทีฉุกเฉิน – ทำอย่างไรทันทีเมื่อเกิดอาการ
- โทร 1669 หรือสายด่วนฉุกเฉินทันที
- หยุดทุกกิจกรรม และนั่ง/นอนพัก
- เคี้ยวหรืออมยาแอสไพริน (ถ้าไม่มีข้อห้าม) เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- หากหมดสติและไม่หายใจ ต้องทำ CPR กดหน้าอกแรงและเร็ว 100–120 ครั้ง/นาที
- การรักษาในโรงพยาบาล – เปิดทางเลือดสู่หัวใจให้เร็วที่สุด
เมื่อถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์จะทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- เจาะเลือดตรวจเอนไซม์หัวใจ
- เอกซเรย์ทรวงอก และอัลตราซาวด์หัวใจ
- หากพบการอุดตัน จะทำการรักษาทันที เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ทำบอลลูน หรือผ่าตัดบายพาส
ตารางเปรียบเทียบวิธีรักษาหัวใจวาย
วิธีรักษา | เหมาะกับเคส | จุดเด่น | ระยะเวลาที่ได้ผลดีที่สุด | ข้อจำกัด |
ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytics) | ผู้ป่วยที่เพิ่งมีอาการ 1–3 ชม. และไม่สามารถทำบอลลูนได้ทันที | ใช้ยาเพื่อสลายลิ่มเลือด เปิดการไหลเวียน | ภายใน 1–3 ชม. หลังเริ่มอาการ | เสี่ยงเลือดออกในสมอง ห้ามใช้ในบางโรค |
การทำบอลลูนหัวใจ (PCI) | ผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลันที่มีหลอดเลือดตีบ/อุดตัน 1–2 จุด | เปิดหลอดเลือดได้รวดเร็ว ฟื้นตัวไว | ภายใน 90 นาทีหลังถึง รพ. | ต้องมีห้องปฏิบัติการและแพทย์เฉพาะทาง |
การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG) | ผู้ป่วยหลอดเลือดตีบหลายจุดหรือรุนแรง | สร้างทางเดินเลือดใหม่ ลดโอกาสอุดตันซ้ำ | วางแผนผ่าตัดตามอาการ | ใช้เวลาฟื้นตัวนาน เสี่ยงจากการผ่าตัดใหญ่ |
อ่านเพิ่มเติม
- บอลลูนหัวใจคืออะไร ทางเลือกในรักษาโรคหัวใจแบบไม่ต้องผ่าตัด
- ขั้นตอนบอลลูนหัวใจ
- ผ่าตัดบายพาสหัวใจ กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
การฟื้นตัวหลังหัวใจวาย – ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
- ปรับอาหาร ลดไขมันอิ่มตัว เกลือ และของทอด
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็วหรือปั่นจักรยาน 30 นาที/วัน
- เลิกบุหรี่ และจำกัดแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนัก ความดัน และน้ำตาลในเลือด
- กินยาตามแพทย์สั่ง และมาตรวจติดตามสม่ำเสมอ
หัวใจวายมีโอกาสรอดไหม?
คำตอบคือ รอดได้ หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสม หลายคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น และตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- เบาหวาน
- ประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Q: หัวใจวายรักษาหายขาดไหม?
A: ไม่สามารถการันตีว่าหายขาด แต่ถ้ารักษาเร็วและปรับพฤติกรรม โอกาสเกิดซ้ำจะลดลงมาก
Q: หัวใจวายต้องผ่าตัดทุกคนไหม?
A: ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของการอุดตัน บางรายใช้ยาหรือทำบอลลูนก็เพียงพอ
Q: อาการหัวใจวายต่างจากกรดไหลย้อนอย่างไร?
A: หัวใจวายมักเจ็บหน้าอกร้าว เหงื่อออก ตัวเย็น และหายใจลำบาก ส่วนกรดไหลย้อนจะรู้สึกแสบร้อนกลางอกและเรอเปรี้ยวมากกว่า
ปรึกษาทีมแพทย์หัวใจเฉพาะทาง
หัวใจวายเป็นภาวะที่ต้องแข่งกับเวลา การรักษาเร็วหมายถึงโอกาสรอดที่มากขึ้น
ศูนย์หัวใจวิชัยเวช โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม
พร้อมทีมแพทย์โรคหัวใจเฉพาะทาง และห้องสวนหัวใจมาตรฐานสากล เปิดให้บริการ 24 ชม. เพื่อดูแลทุกนาทีของหัวใจคุณ
ติดต่อศูนย์หัวใจวิชัยเวช 24 ชั่วโมง
เราพร้อมให้การดูแล รักษา ป้องกันครอบคลุมโรคหัวใจทั่วไป
และโรคหัวใจในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97