บทความโดย
นพ.วัฒนา บุญสม
ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช
ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน เดินขึ้นบันไดนิดเดียวก็เหมือนวิ่งมาราธอน นี่อาจเป็นสัญญาณของ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุและผู้มีโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง
หลายคนเมื่อได้ยินว่า “หลอดเลือดหัวใจตีบ” ก็อาจนึกถึงการผ่าตัดใหญ่ แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ได้พัฒนาไปมาก หนึ่งในทางเลือกที่เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว คือการรักษาแบบ “ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน” หรือที่เรียกว่า Balloon Angioplasty
บอลลูนหัวใจคืออะไร?
การทำบอลลูนหัวใจคือหัตถการที่ใช้สายสวนขนาดเล็กสอดเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจผ่านทางข้อมือหรือขาหนีบ จากนั้นขยายจุดที่ตีบด้วย “บอลลูน” และในบางกรณีแพทย์จะใส่ ขดลวด (Stent) เพื่อค้ำยันให้หลอดเลือดเปิดอยู่ ลดความเสี่ยงที่จะตีบซ้ำในอนาคต
ข้อดีของการทำบอลลูนหัวใจ
- ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่: ไม่มีแผลใหญ่ ลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบ
- ฟื้นตัวไว: พักฟื้นประมาณ 24 ชั่วโมง กลับบ้านได้ใน 1–2 วัน
- ผลลัพธ์ดี: อาการแน่นหน้าอกและเหนื่อยง่ายดีขึ้นทันทีหลังหัตถการ
- เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคร่วม ที่เสี่ยงจากการผ่าตัด
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำบอลลูนหัวใจ?
- ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบไม่ซับซ้อน (1–2 เส้น)
- ผู้ที่มีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอกบ่อย
- ผู้ที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ต้องการการรักษาเร่งด่วน
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดใหญ่ เช่น ผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวหลายโรค
ขั้นตอนการทำบอลลูนหัวใจ
- เตรียมตัวก่อนรักษา: งดอาหาร 4–6 ชั่วโมง แพทย์ตรวจประเมินความพร้อม โดยตรวจดูผลเลือดทางห้องปฏิบัติการ เอกซเรย์ และ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ใส่สายสวน: ใช้ยาชาเฉพาะที่ สอดสายสวนผ่านขาหนีบหรือข้อมือ เข้าไปที่หลอดเลือดหัวใจ
- ขยายหลอดเลือด: ใช้บอลลูนขยายจุดที่ตีบ อาจใส่ขดลวดหากจำเป็น
- พักฟื้นและสังเกตอาการ: พักฟื้นประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน
การดูแลตัวเองหลังทำบอลลูนหัวใจ
- กินอาหารดี: ลดไขมัน ของทอด เพิ่มผัก ผลไม้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เช่น เดินเร็ววันละ 30 นาที
- ควบคุมโรคร่วม: ตรวจเช็กเบาหวาน ความดัน ไขมัน อย่างต่อเนื่อง
- ทานยาตามแพทย์สั่ง: โดยเฉพาะ ยาต้านเกล็ดเลือด ห้ามหยุดยาเอง
- เลิกบุหรี่ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์: ลดความเสี่ยงการตีบซ้ำ
อ่านต่อ: หลอดเลือดจะตีบซ้ำไหมหลังทำบอลลูนหัวใจ? สาเหตุ วิธีป้องกัน และการดูแลตัวเอง
บอลลูนหัวใจกับการผ่าตัดบายพาส ต่างกันอย่างไร?
หัตถการ |
เหมาะกับผู้ป่วยที่… | ข้อดี |
บอลลูนหัวใจ |
เส้นเลือดตีบไม่ซับซ้อน (1–2 เส้น) |
ฟื้นตัวไว ไม่ต้องดมยาสลบ |
ผ่าตัดบายพาส | ตีบหลายเส้น หรือมีเบาหวานรุนแรง |
แก้ปัญหาได้ทั่วถึงกว่าในกรณีซับซ้อน |
สรุป
“การทำบอลลูนหัวใจ” เป็นหัตถการที่ปลอดภัย เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบไม่ซับซ้อน หากได้รับการตรวจวินิจฉัยเร็ว ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ “การดูแลหัวใจในระยะยาว” เพราะแม้ทำบอลลูนหัวใจแล้ว หลอดเลือดก็ยังมีโอกาสตีบซ้ำ หากไม่ควบคุมพฤติกรรมหรือโรคร่วม
หากคุณมีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย อย่ารอให้สายเกินไป ตรวจหัวใจวันนี้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในวันหน้า
สอบถามหรือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
หากคุณหรือคนในครอบครัวเพิ่งทำบอลลูนหัวใจ และต้องการแนวทางดูแลหรือป้องกันหลอดเลือดตีบซ้ำ ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจร
นัดหมายแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97