บทความโดย
นพ.วัฒนา บุญสม
ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช
โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม
ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการ เจ็บแน่นหน้าอกเฉียบพลัน เหงื่อแตก หายใจไม่ทัน หรือเป็นลมหมดสติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack หรือ Acute Myocardial Infarction – AMI) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด
หัวใจวายเฉียบพลัน ต้องรักษาเร็ว!
เพราะหัวใจของเราทำงานตลอดเวลา หากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจเกิดอุดตันกะทันหัน เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะเริ่มตายภายในไม่กี่นาที และยิ่งปล่อยไว้นาน โอกาสรอดชีวิตก็ลดลง
ลองนึกภาพถนนที่รถติดหนักเพราะมีอุบัติเหตุขวางทาง หัวใจก็เช่นกัน ถ้าหลอดเลือดอุดตัน เลือดจะไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ และถ้าไม่รีบเปิดเส้นทางให้เลือดไหลผ่าน กล้ามเนื้อหัวใจก็จะเสียหายถาวร หรือแย่ที่สุดคือหัวใจหยุดเต้น
สัญญาณเตือนหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
สัญญาณที่พบบ่อย ได้แก่
- เจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับ อาจร้าวไปที่แขนซ้าย คอ ขากรรไกร หรือหลัง
- เหงื่อออกมาก ตัวเย็น ใจสั่น
- หายใจไม่ออก เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือหน้ามืด
สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้หญิงและผู้สูงอายุ อาการอาจไม่ชัดเจน อาจรู้สึกแค่เหนื่อยผิดปกติ หรือปวดท้อง ดังนั้น หากมีอาการที่สงสัย ควรรีบมาโรงพยาบาลทันที!
ทำไมเวลาถึงสำคัญ?
ในวงการแพทย์มีหลักการที่เรียกว่า “Time is Muscle” หมายถึง ทุกนาทีที่ปล่อยให้หัวใจขาดเลือด เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะตายมากขึ้น และจะไม่สามารถฟื้นคืนมาได้ การเปิดหลอดเลือดหัวใจที่อุดตันให้เร็วที่สุด จึงอาจช่วยชีวิตคุณได้
เพื่อให้การช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินได้เร็วที่สุด เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ และห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ (Cath Lab) ที่ทันสมัย ทำให้สามารถดำเนินการรักษาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตลอด 24/7 เป็นผลให้สามารถเปิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันในผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเฉลี่ยไม่เกิน 30 นาที
วิธีรักษาหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การรักษาภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อเปิดหลอดเลือดที่อุดตันและช่วยให้เลือดกลับมาไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้โดยเร็วที่สุด การรักษาจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงและสภาพของผู้ป่วย โดยมีแนวทางหลัก ดังนี้:
1. การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด (Balloon Angioplasty & Stent Placement)
เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายในการเปิดหลอดเลือดที่ตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน โดยเฉพาะในกรณีหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ขั้นตอน:
- แพทย์จะใช้สายสวนขนาดเล็ก (Catheter) สอดเข้าไปทางเส้นเลือดที่ข้อมือหรือขาหนีบ
- ปลายสายสวนจะถูกนำไปยังตำแหน่งของหลอดเลือดหัวใจที่อุดตัน
- บอลลูนเล็ก ๆ ที่ปลายสายสวนจะถูกพองตัวเพื่อขยายหลอดเลือด
- จากนั้นใส่ “ขดลวด” หรือ Stent เพื่อพยุงให้หลอดเลือดเปิดค้างไว้ ป้องกันการตีบซ้ำ
ข้อดี:
- แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
- สามารถเปิดหลอดเลือดได้อย่างรวดเร็ว
- เพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจ
2. การให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic Therapy)
ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถทำบอลลูนหัวใจได้ทันที เช่น อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือโรงพยาบาลไม่มีห้อง Cath Lab
รายละเอียด:
- แพทย์จะให้ยาในกลุ่มละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic agents) ทางหลอดเลือดดำ เช่น Streptokinase, Alteplase
- ยาจะทำหน้าที่สลายลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดหัวใจ
- มักใช้ร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือดและยาลดการแข็งตัวของเลือด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ข้อจำกัด:
- มีความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออก เช่น เลือดออกในสมอง
- ต้องประเมินอย่างรอบคอบก่อนใช้
หมายเหตุ: หากสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปทำบอลลูนหัวใจได้ภายใน 120 นาที การทำบอลลูนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
3. การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Grafting – CABG)
เป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบหลายตำแหน่ง หรือกรณีที่มีลักษณะซับซ้อนจนไม่สามารถใส่ขดลวดได้
ขั้นตอน:
- ศัลยแพทย์จะนำหลอดเลือดจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หลอดเลือดดำจากขา หรือหลอดเลือดแดงจากหน้าอก
- มาต่อเชื่อมทางเบี่ยงข้ามหลอดเลือดที่อุดตัน เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้
ข้อดี:
- ลดอาการเจ็บหน้าอก
- เพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว
- ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวายซ้ำ
ข้อจำกัด:
- ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากกว่าการทำบอลลูน
- เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องวางยาสลบและใช้เวลาหลายชั่วโมง
อ่านบทความ:
ทำไมต้องศูนย์หัวใจวิชัยเวช?
1. มีศักยภาพสามารถเปิดหลอดเลือดอุดตัน ได้อย่างหัวใจเร็ว ภายในเวลาเฉลี่ยไม่เกิน 30 นาที
2. ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ 24 ชั่วโมง
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ:ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคหัวใจ ที่พร้อมด้วยประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมายาวนาน คอยให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เรามีแพทย์หัตถการสวนหัวใจและศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจพร้อม 24 ชั่วโมง ผ่าตัดหัวใจ โดยคณะแพทย์และทีมงานมาตรฐานโรงเรียนแพทย์
3. ห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ (Cath Lab) ที่ทันสมัย พร้อม 24 ชั่วโมง
- รองรับการทำบอลลูนหัวใจและใส่ขดลวดได้ทันที ไม่ต้องรอส่งตัวไปโรงพยาบาลอื่น
4. การดูแลฉุกเฉินที่รวดเร็ว
- ลดระยะเวลารอคิว เพื่อให้ได้รับการรักษาในช่วงเวลาสำคัญที่สุด
5. เทคโนโลยีวินิจฉัยแม่นยำ
- เรามีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษามีความแม่นยำและรวดเร็ว เช่น EKG, Echocardiogram, CT Angiography เพื่อประเมินภาวะหัวใจอย่างละเอียด
6. ความพร้อมในการดูแลแบบครบวงจร
- พร้อมดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน: ศูนย์หัวใจของเราพร้อมด้วยทีมแพทย์และห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติโรคหัวใจ และผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ CCU: เพื่อให้คุณได้รับการดูแลและรักษาที่ดีที่สุด
- รถพยาบาลฉุกเฉินโรคหัวใจ บริการ 24 ชั่วโมง: พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการโรคหัวใจและอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤติขั้นสูง ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลเบื้องต้น ด้วยความรวดเร็วและปลอดภัย
- ระบบการส่งตัวผู้ป่วยมารักษาที่ศูนย์หัวใจวิชัยเวช ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ หากผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต้องการเข้ารับการรักษาที่ศูนย์หัวใจวิชัยเวช
- การดูแลหลังการรักษา: ดูแลต่อเนื่องหลังการรักษา เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด: ทุกขั้นตอนของการรักษามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้คุณมั่นใจในการรับบริการ
การดูแลรักษาเมื่อเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การดูแลป้องกันก่อนเกิดโรคก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณทราบหรือยังว่า คุณสามารถประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ ซึ่งข้อมูลเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นแนวทางการดูแลตัวเองของคุณ
อ่านเพิ่มเติม
การป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
- ควบคุมอาหาร ลดไขมัน ลดเค็ม เพิ่มผักผลไม้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลิกบุหรี่
- ควบคุมเบาหวาน ความดัน ไขมัน
- กินยาตามแพทย์สั่ง
- ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
Q: หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันอันตรายแค่ไหน?
A: หากไม่รักษาทันที อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายถาวร หรือหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้
Q: ถ้ามีอาการแน่นหน้าอก ควรทำอย่างไร?
A: ควรรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที และไม่ควรขับรถไปโรงพยาบาลเอง
Q: การทำบอลลูนหัวใจเจ็บไหม?
A: ส่วนใหญ่ไม่เจ็บมาก ใช้ยาชาเฉพาะที่และทำผ่านข้อมือ
Q: สามารถตรวจคัดกรองล่วงหน้าได้ไหม?
A: ได้ เช่น EST (Exercise Stress Test), CT Calcium Score, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอัลตราซาวด์หัวใจ
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเจ็บหน้าอก หน้ามืด ใจสั่น
อย่ารอให้สายเกินไป — รีบตรวจหัวใจวันนี้
นัดหมายแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97