โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ ป้องกันได้ด้วย 4อ 2ส 1น

ลดเสี่ยงหัวใจล้มเหลว ด้วยแนวทางดูแลสุขภาพที่ทำได้จริง

โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (Aortic Stenosis) เป็นปัญหาสำคัญของระบบหัวใจที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจพบและไม่รับการรักษา แต่รู้หรือไม่ว่า แนวทาง “4อ 2ส 1น” ที่เน้นการปรับพฤติกรรมพื้นฐาน สามารถช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเสื่อมของลิ้นหัวใจได้

โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบคืออะไร?

ลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic valve) ทำหน้าที่เปิด-ปิดเพื่อให้เลือดไหลออกจากหัวใจไปสู่หลอดเลือดแดงใหญ่ หากลิ้นหัวใจตีบหรือลดความสามารถในการเปิดออก จะทำให้หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้น ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตทั้งร่างกาย

ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวในระยะแรก แต่อาการจะชัดเจนขึ้นเมื่อโรคลุกลาม เช่น:

  • เหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เจ็บหน้าอก
  • หน้ามืด วูบ เป็นลม
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • หายใจหอบ แม้นั่งพัก

อ่านเพิ่มเติม: เช็กอาการ สาเหตุ และแนวทางรักษาโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ

ป้องกันโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบด้วย “4อ 2ส 1น”

แม้โรคนี้จะเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของร่างกายและกรรมพันธุ์ แต่การดูแลสุขภาพอย่างรอบด้านสามารถลดความเสี่ยงหรือชะลอความรุนแรงได้ โดยเฉพาะแนวทาง “4อ 2ส 1น” ซึ่งครอบคลุมพฤติกรรมที่เราควบคุมได้ในชีวิตประจำวัน

4อ: อาหาร – ออกกำลังกาย – อารมณ์ – อากาศ

1. อาหาร

  • หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด เค็มจัด หวานจัด
  • ลดไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล
  • เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี

2. ออกกำลังกาย

  • ออกกำลังสม่ำเสมอ 30 นาที/วัน สัปดาห์ละ 5 วัน
  • เน้นแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลัง

3. อารมณ์

  • หลีกเลี่ยงความเครียดสะสม พักผ่อนเพียงพอ
  • ฝึกผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก หรือสมาธิ

4. อากาศ

  • หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน มลพิษ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
  • หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านช่วงอากาศแปรปรวนหรือร้อนจัด

2ส: ไม่สูบบุหรี่ – สารเสพติด

1. ไม่สูบบุหรี่

  • บุหรี่ทำลายหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงหัวใจตีบและความดันโลหิตสูง

2. ไม่ใช้สารเสพติด

  • สารกระตุ้น เช่น ยาบ้า โคเคน ส่งผลต่อหัวใจโดยตรง
  • สารกระตุ้น เช่น ยาบ้า โคเคน ส่งผลต่อหัวใจโดยตรง

1น: นอนหลับ

  • นอนอย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง
  • พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ช่วยให้หัวใจฟื้นตัวได้ดี
  • นอนผิดเวลา/นอนไม่พอเรื้อรัง เสี่ยงโรคเรื้อรังรวมถึงหัวใจ

เมื่อไหร่ควรตรวจลิ้นหัวใจ?

การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น:

  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคลิ้นหัวใจ
  • มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือด
  • มีอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หน้ามืด

การตรวจด้วย Echo (คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ) และ CT Calcium Score สามารถช่วยประเมินระดับการตีบของลิ้นหัวใจได้อย่างแม่นยำ

อ่านเพิ่มเกี่ยวกับ การตรวจหัวใจด้วย Echo สำคัญอย่างไร

สรุป: ป้องกันไว้ดีกว่า!

แม้โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่การดูแลตัวเองตามหลัก “4อ 2ส 1น” เป็นแนวทางที่ง่ายแต่ได้ผล ช่วยลดภาระต่อหัวใจ และชะลอการเสื่อมของลิ้นหัวใจได้

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ

Q: โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบเกิดจากอะไร?
A: ส่วนใหญ่มักเกิดจากความเสื่อมตามวัย ภาวะแคลเซียมเกาะ หรือโรคหัวใจรูมาติกในวัยเด็ก

Q: โรคนี้ป้องกันได้จริงหรือ?
A: แม้จะป้องกันไม่ได้ 100% แต่การควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดัน ไขมัน และพฤติกรรมเสี่ยง ช่วยชะลอโรคได้

Q: ถ้าเป็นแล้วจะต้องผ่าตัดไหม?
A: ขึ้นกับระดับความรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วยวิธีเปิดหน้าอกหรือใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวน (TAVI)
อ่านเพิ่มเติม: หัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายหรือไม่?

ปรึกษาแพทย์หัวใจเฉพาะทางได้ที่นี่

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการน่าสงสัย หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ สามารถเข้ารับการประเมินสุขภาพหัวใจได้ที่

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม

  • ตรวจด้วยอัลตราซาวด์หัวใจ / CT Calcium Score
  • ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางครบวงจร

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางหัวใจ
02-441-6999 ต่อ 5555
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97

Line