เชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก หลายคนอาจเพิ่งทราบผลตรวจว่า “ติดเชื้อ HPV 16” แล้วเกิดความกังวลว่าจะรักษาหายไหม? จะกลายเป็นมะเร็งหรือเปล่า?
คำตอบคือ “หายได้” หากตรวจพบเร็วและได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง บทความนี้จะพาไปไขข้อข้องใจว่า HPV 16 คืออะไร อันตรายไหม รักษาอย่างไร และควรตรวจคัดกรองอะไรบ้างเพื่อป้องกันการพัฒนาไปเป็นมะเร็ง
HPV 16 คืออะไร ทำไมจึงอันตราย?
HPV (Human Papillomavirus) เป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่จัดว่า “ความเสี่ยงสูง” คือ HPV 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
อ่านเพิ่มเติม: เชื้อ HPV 16 และ 18 รักษายังไง
ติดเชื้อ HPV 16 แล้วจะเป็นมะเร็งไหม?
ไม่เสมอไป การติดเชื้อ HPV 16 ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งในทันที เพราะโดยทั่วไป ร่างกายสามารถกำจัดไวรัสได้เองภายใน 1–2 ปี หากภูมิคุ้มกันดี แต่หากไวรัสยังคงอยู่ในร่างกายนานเกินไป อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูก และพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
วิธีตรวจหา HPV 16 และคัดกรองความเสี่ยง
- Pap smear (แปปสเมียร์) – ตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก
- HPV DNA test – ตรวจหาเชื้อ HPV โดยตรง โดยเฉพาะสายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น 16, 18
การตรวจทั้ง 2 วิธีนี้สามารถทำร่วมกัน (co-testing) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการประเมินความเสี่ยง
อ่านเพิ่มเติม มะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ อย่ารอให้สายเกินแก้
รักษา HPV 16 อย่างไร?
- หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์: แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าระวังและตรวจซ้ำทุก 6–12 เดือน
- หากมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์: อาจต้องตรวจเพิ่มเติมด้วย Colposcopy หรือตัดชิ้นเนื้อ
- หากพบรอยโรค: อาจรักษาด้วยการจี้เย็น ตัดชิ้นเนื้อ หรือผ่าตัดขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง
ป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้อย่างไร?
- ฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง
- ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์
- ตรวจคัดกรองเป็นประจำตามคำแนะนำของสูตินรีแพทย์
อ่านเพิ่มเติม วัคซีน HPV มีกี่แบบ เลือกฉีดแบบไหนดี
ตารางเปรียบเทียบ: ติดเชื้อ HPV 16 แล้วควรตรวจอะไร และอาจพบโรคอะไรได้บ้าง
อาการหรือผลตรวจ | การตรวจเพิ่มเติมที่แนะนำ | โรคหรือความเสี่ยงที่อาจพบ |
พบเชื้อ HPV 16 จาก HPV DNA test | Pap smear, Colposcopy | การเปลี่ยนแปลงของเซลล์, มะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น |
มีตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่น, มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ | ตรวจภายใน, Pap smear, ตรวจหาเชื้อ HPV | การอักเสบเรื้อรัง, รอยโรคก่อนมะเร็ง |
ไม่เคยตรวจคัดกรองเลย | Pap smear, HPV DNA test | ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งโดยไม่รู้ตัว |
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HPV 16
Q: ติดเชื้อ HPV 16 ต้องรักษาทุกคนไหม?
A: ไม่จำเป็นทุกคน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ แพทย์อาจแนะนำให้ติดตามอาการและตรวจซ้ำ
Q: HPV 16 อยู่ในร่างกายนานไหม?
A: ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้ภายใน 1–2 ปี แต่บางรายอาจเป็นพาหะเรื้อรัง โดยไม่แสดงอาการใด ๆ
Q: วัคซีน HPV ป้องกันสายพันธุ์ 16 ได้ไหม?
A: ได้ วัคซีน HPV ครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
Q:ตรวจพบ HPV 16 แล้วมีบุตรได้ไหม?
A:มีได้ แต่อาจต้องตรวจเช็กสุขภาพปากมดลูกเพิ่มเติมก่อนตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
สรุป: ติดเชื้อ HPV 16 ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากตรวจเจอเร็ว ดูแลดี และไม่ละเลยการตรวจคัดกรอง
อย่ารอให้สายเกินไป เพราะ HPV 16 สามารถป้องกันและรักษาได้ หากมีการตรวจติดตามอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งดูแลสุขภาพโดยแพทย์เฉพาะทาง
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีความเสี่ยงหรือต้องการปรึกษาเรื่อง HPV นัดหมายตรวจคัดกรองกับแพทย์เฉพาะทางได้ที่ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม ดูแลโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมอุปกรณ์ตรวจครบวงจร ปลอดภัย มั่นใจ
ติดต่อ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97