บทความโดย
นพ.สักกพันธ์ เลาหสุรโยธิน
แพทย์เฉพาะทางศูนย์สูตินรีเวช
มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่ป้องกันได้มากที่สุด หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในระยะ 0–1 หรือที่เรียกว่า “ระยะแรก” ซึ่งเป็นช่วงที่เซลล์ผิดปกติเริ่มก่อตัวที่บริเวณปากมดลูกและยังไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น
แต่ปัญหาคือ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าตนเองเป็น เพราะระยะแรกมักไม่มีอาการใด ๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ
มะเร็งปากมดลูกระยะแรกคืออะไร?
ระยะแรกของมะเร็งปากมดลูก หมายถึงช่วงที่เซลล์เยื่อบุปากมดลูกเริ่มเกิดความผิดปกติจากการติดเชื้อ HPV (โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18) แต่ยังไม่ลุกลามลึกหรือแพร่กระจาย
โดยแบ่งระดับเซลล์ผิดปกติ (Precancerous lesion) ออกเป็น:
- CIN1: ผิดปกติน้อย อาจหายเองได้
- CIN2–CIN3: ผิดปกติระดับกลางถึงรุนแรง ต้องรักษาเพื่อลดโอกาสเกิดมะเร็ง
อ่านเพิ่มเติม: HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 รักษายังไง?
อาการของมะเร็งปากมดลูกระยะแรก
ผู้หญิงส่วนใหญ่ในระยะนี้ “ไม่มีอาการชัดเจน” แต่บางรายอาจมีอาการเตือนเล็กน้อย เช่น:
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมากกว่าปกติ มีกลิ่น หรือมีเลือดปน
- ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
- รอบเดือนผิดปกติ
อาการเหล่านี้แม้จะดูไม่รุนแรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อยควรรีบตรวจ เพราะอาจเป็นสัญญาณของเซลล์ผิดปกติที่กำลังก่อตัว
อ่านเพิ่มเติม: เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกไหม?
มะเร็งปากมดลูกระยะแรก รักษาได้ไหม?
คำตอบคือ “รักษาได้แน่นอน” หากตรวจพบเร็ว การรักษาในระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายสูงเกือบ 100%
แนวทางรักษาในระยะแรก ได้แก่:
- การจี้เย็น (Cryotherapy): ใช้ความเย็นทำลายเซลล์ผิดปกติ
- การตัดชิ้นเนื้อด้วยไฟฟ้า (LEEP): ตัดเฉพาะจุดที่ผิดปกติ
- การผ่าตัดเฉพาะส่วน: เช่น การตัดปากมดลูกบางส่วน (กรณี CIN3)
- การติดตามผล: หากความผิดปกติอยู่ในระดับต่ำ (CIN1) แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 6–12 เดือน
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระยะแรกอย่างไร?
–Pap smear: ตรวจหาเซลล์ผิดปกติบริเวณปากมดลูก เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป และตรวจซ้ำทุก 1–3 ปี
–HPV DNA Test : ตรวจหาเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เพื่อประเมินความเสี่ยงมะเร็ง
–Colposcopy :ส่องกล้องตรวจปากมดลูกโดยละเอียด หาก Pap smear หรือ HPV DNA ผิดปกติ
ใครบ้างที่ควรตรวจ?
- ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่ไม่เคยตรวจ Pap smear มาก่อน
- ผู้ที่มีอาการตกขาวผิดปกติ ปวดท้องน้อย หรือเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
ป้องกันมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ
- ตรวจ Pap smear และ HPV DNA Test เป็นประจำ
- ฉีดวัคซีน HPV (ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือแม้เคยมีแล้วก็ยังฉีดได้)
- ใช้ถุงยางอนามัย ลดโอกาสติดเชื้อ HPV
- งดสูบบุหรี่ และดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
อ่านบทความเพิ่มเติม วัคซีน HPV มีกี่แบบ เลือกฉีดแบบไหนดี
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: มะเร็งปากมดลูกระยะแรกอันตรายไหม?
A: ไม่อันตรายหากตรวจพบเร็วและรักษาทัน เพราะโอกาสหายสูงถึง 90–100%
Q: ระยะแรกมีอาการชัดเจนไหม?
A: ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่ควรสังเกตตกขาวผิดปกติหรือเลือดออกหลังเพศสัมพันธ์
Q: ถ้าตรวจเจอในระยะแรก ต้องตัดมดลูกไหม?
A: ไม่จำเป็นเสมอไป แพทย์จะรักษาเฉพาะจุดที่มีเซลล์ผิดปกติ เพื่อให้ยังสามารถมีบุตรได้ในอนาคต
Q: ตรวจเจอระยะแรก ต้องรีบรักษาทันทีหรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับระดับเซลล์ผิดปกติ แพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
Q: ตรวจที่ไหนดี?
A: โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม มีแพทย์ผู้หญิงที่เข้าใจ ให้คำแนะนำและตรวจคัดกรองอย่างใส่ใจ
ตรวจคัดกรองกับแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
ให้บริการตรวจ Pap smear, HPV DNA, Colposcopy และวางแผนการรักษาอย่างใส่ใจ
ติดต่อ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97