“อยากมีกระดูกแข็งแรง ไม่อยากเจ็บปวดจากกระดูกหัก การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา แต่ก่อนตัดสินใจ คุณต้องทำความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดยาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ ผลข้างเคียง หรือวิธีการฉีด บทความนี้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ”
Q : การฉีดยาป้องกันภสวะกระดูกพรุนคืออะไร?
การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน คือ การใช้ยาที่ช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกและกระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก โดยการฉีดยาจะมีฤทธิ์ออกโดยตรงต่อกระดูก
Q : ใครบ้างที่ควรฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน?
- ผู้สูงอายุ: โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก
- ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน: เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงทำให้กระดูกสูญเสียความหนาแน่น
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นภาวะกระดูกพรุน
- ผู้ที่มีประวัติกระดูกหัก: โดยเฉพาะกระดูกสะโพก ข้อมือ หรือกระดูกสันหลัง
- ผู้ที่มีความหนาแน่นของกระดูกต่ำ: จากการตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density – BMD)
- ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด: เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ที่ส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของกระดูก
- ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ: เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือโรคที่ส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียม
Q : การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน ช่วยคุณได้อย่างไร?
- ลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก: การศึกษาหลายชิ้นพบว่า การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักที่สะโพกและกระดูกสันหลังได้ถึง 50-70%
- เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก: ยาที่ใช้ในการฉีดจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นและทนทานต่อแรงกระแทกมากขึ้น
- ชะลอการสูญเสียมวลกระดูก: ยาจะเข้าไปยับยั้งการสลายตัวของกระดูก ทำให้กระดูกคงอยู่ได้นานขึ้น
- ปรับปรุงคุณภาพชีวิต: การลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก ทำให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเจ็บปวดหรือเคลื่อนไหวลำบาก
- ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา: การป้องกันที่ดีกว่าการรักษา การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่อาจเกิดขึ้นจากการกระดูกหักในระยะยาว
Q : ยาที่ใช้ในการฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนมีอะไรบ้าง?
ยาที่ใช้ฉีดยามีหลายชนิด เช่น ยาในกลุ่ม bisphosphonate และ monoclonal antibody โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกยาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
Q: ผลข้างเคียงของการฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนมีอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และไข้ แต่อาการเหล่านี้มักหายไปภายในไม่กี่วัน หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
Q: การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนขึ้นอยู่กับชนิดของยาและความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่แพทย์จะกำหนดให้ฉีดยาปีละ 1-2 ครั้ง หรืออาจบ่อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายต่อการรักษา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Q : การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้หรือไม่?
การฉีดยาป้องกันโรคกระดูกพรุน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกและลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก
Q : ผลของการฉีดยาต่อการตั้งครรภ์
หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดยา เนื่องจากยาบางชนิดอาจมีผลต่อทารกในครรภ์
Q : การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนใช้ร่วมกับการรับประทานแคลเซียมได้หรือไม่?
การฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุนสามารถใช้ร่วมกับการรับประทานแคลเซียมหรืออาหารเสริมได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
Q: เมื่อไหร่ที่ปรึกษาแพทย์?
- หากคุณมีอาการปวดกระดูกเรื้อรัง
- หากมีประวัติครอบครัวเป็นภาวะกระดูกพรุน
- หากมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน
การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ก่อนตัดสินใจฉีดยาป้องกันภาวะกระดูกพรุน ศูนย์กระดูกและข้อ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมประเมินสภาพร่างกายและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
เพราะเรื่องกระดูกและข้อ รอไม่ได้
ปล่อยไว้เรื้อรัง อาจรักษายาก
ติดต่อศูนย์กระดูกและข้อ
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา