ไส้ติ่งอักเสบต้องผ่าตัด! แผลเล็ก vs แผลใหญ่ เลือกแบบไหนดี?

เชื่อว่าหลายท่านที่กำลังเผชิญกับภาวะไส้ติ่งอักเสบ คงมีความกังวลใจและสับสนเกี่ยวกับการเลือกวิธีการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันมี 2 วิธีหลักๆ คือ การผ่าตัดแบบเปิดแผล และการผ่าตัดผ่านกล้อง เราจะมาเจาะลึกถึงข้อดี-ข้อเสีย ของแต่ละวิธี พร้อมยกตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

1. การผ่าตัดแบบเปิดแผล (Open Appendectomy)
เป็นวิธีดั้งเดิมที่ศัลยแพทย์คุ้นเคยและใช้กันมานาน โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณท้องน้อยด้านขวาเหนือตำแหน่งของไส้ติ่ง เพื่อเข้าไปตัดไส้ติ่งที่อักเสบออก

ข้อดี

  • ในกรณีที่ไส้ติ่งแตก ศัลยแพทย์จะได้ล้างช่องท้องได้สะอาดกว่า
  • ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า: โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดแบบเปิดแผลจะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการผ่าตัดผ่านกล้อง เนื่องจากไม่ต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์พิเศษ จึงเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับผู้ป่วยบางราย

ข้อเสีย

  • แผลใหญ่: แผลผ่าตัดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประมาณ 5-10 เซนติเมตร ลองนึกภาพแผลผ่าตัดที่ยาวประมาณฝ่ามือ ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลใจเรื่องรอยแผลเป็น โดยเฉพาะในผู้หญิง หรือผู้ที่ต้องใส่เสื้อผ้าเปิดหน้าท้อง
  • เจ็บแผลมาก: หลังผ่าตัดผู้ป่วยมักมีอาการปวดแผล ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การลุก นั่ง เดิน ไอ จาม และอาจต้องใช้ยาแก้ปวดเป็นเวลานาน
  • ฟื้นตัวช้า: ผู้ป่วยที่ผ่าตัดแบบเปิดแผล มักต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลนานกว่า และใช้เวลานานกว่าจะกลับไปทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
  • รอยแผลเป็นชัดเจน: แผลผ่าตัดขนาดใหญ่มักทิ้งรอยแผลเป็นที่ชัดเจน และบางรายอาจมีปัญหาแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ ซึ่งส่งผลต่อความสวยงาม

2. การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Appendectomy)
เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัย โดยศัลยแพทย์จะสอดกล้องขนาดเล็ก และเครื่องมือผ่าตัด เข้าไปในช่องท้อง ผ่านรูเล็กๆ ประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร จำนวน 3-4 รู กล้องจะส่งภาพอวัยวะภายในไปแสดงบนจอภาพ ทำให้แพทย์มองเห็นไส้ติ่งและบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจน และสามารถผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกได้อย่างแม่นยำ

ข้อดี

  • แผลเล็ก: แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.5-1 เซนติเมตร เท่านั้น บางครั้งเล็กจนแทบมองไม่เห็น ช่วยลดความกังวลใจเรื่องรอยแผลเป็น
  • เจ็บแผลน้อย: การผ่าตัดผ่านกล้อง สร้างความบอบช้ำต่อเนื้อเยื่อน้อยกว่า ผู้ป่วยจึงมีอาการปวดแผลน้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ฟื้นตัวเร็ว: ผู้ป่วยสามารถลุกเดิน รับประทานอาหาร และทำกิจกรรมต่างๆ ได้เร็วกว่า บางรายอาจกลับบ้านได้ภายใน 1-2 วัน หลังผ่าตัด
  • รอยแผลเป็นน้อย: รอยแผลเป็นมีขนาดเล็ก และจางหายได้เร็วกว่า
  • ลดภาวะแทรกซ้อน: เช่น การเกิดพังผืดในช่องท้อง การอุดตันของลำไส้

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่า: การผ่าตัดผ่านกล้อง มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบเปิดแผล เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • ต้องใช้ความชำนาญ: ศัลยแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการผ่าตัดผ่านกล้อง
  • อาจไม่เหมาะกับบางราย: เช่น ผู้ป่วยที่ไม่สามารถใส่  gas ในช่องท้องได้ เนื่องจากมีพังผืดในช่องท้องมาก , เคยผ่าตัดช่องท้องมาก่อนทำให้การผ่าตัดผ่านกล้องทำได้ยากขึ้น , ภาวะไส้ติ่งแตกและมีหนองในในช่องท้องมาก

ตารางเปรียบเทียบ

หัวข้อ

ผ่าตัดแบบเปิด

ผ่าตัดผ่านกล้อง

ขนาดแผล ใหญ่ (5-10 ซม.) เล็ก (0.5-1 ซม.)
อาการปวดแผลหลังผ่าตัด มาก น้อย
ระยะเวลาพักฟื้น นาน (7-14 วัน) เร็ว (1-3 วัน)
รอยแผลเป็น ชัดเจน จางหายเร็ว
ค่าใช้จ่าย ต่ำกว่า สูงกว่า

แบบไหนดีกว่ากัน?
การเลือกวิธีการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศัลยแพทย์ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ความรุนแรงของไส้ติ่งอักเสบ ความชำนาญของศัลยแพทย์ อุปกรณ์ และค่าใช้จ่าย

คำแนะนำ

  • ปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อพูดคุยถึงข้อดี-ข้อเสีย และเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด
  • หากมีอาการปวดท้อง สงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ไส้ติ่งแตก
Line