โควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษมีชื่อว่า B.1.1.7 เป็นโควิด-19 ที่มีความสามารถในการระบาดมากกว่าสายพันธุ์ปกติถึง 1.7 เท่า และกระจายได้เร็วกว่าเชื้อธรรมดาถึง 70% นอกจากนี้ยังมีปริมาณของเชื้อไวรัสโควิด-19 เยอะกว่ามาก พบครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2563 ในประเทศอังกฤษ ก่อนจะเริ่มระบาดไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป มีการรายงานว่าพบเชื้อโควิดชนิดนี้ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มกราคม ปี 2564
โดยเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษเมื่อเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์จะทำการแตกตัวเพิ่มจำนวนขึ้นหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาทส่วนบน ระบบประสาทส่วนล่าง รวมถึงจะทำการแบ่งตัวในทางเดินหายใจส่วนบนได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติ และมีโอกาสแพร่เชื้อสู่คนอื่นผ่านละอองน้ำลาย ซึ่งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์นี้จะปนอยู่ในน้ำลายได้มากถึง 70% ซึ่งหากควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์นี้ไม่ได้ ก็จะเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศแบบทวีคูณ มีความสัมพันธ์กับการนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิต โดยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า และสามารถทำให้เกิดโรคได้รุนแรงขึ้น และพบผู้เสียชีวิตมากขึ้น
อาการโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษเป็นอย่างไร
ผู้ป่วยโควิด-19 ในระลอกนี้ ส่วนใหญ่เชื้อลงปอด มีทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ และในจำนวนนี้ มีประมาณ 50% ที่มีภาวะปอดอักเสบ โดยสังเกตได้ดังนี้
- วันที่ 1-14 โควิดไม่แสดงอาการ
อาการโควิดรอบใหม่นี้ พบผู้ป่วยไม่ได้แสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อระยะแรก จึงทำให้ได้รับการวินิจฉัยล่าช้า จนมีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ในระยะเวลา 14 วันแรกเป็นช่วงที่เชื้อเพิ่มจำนวนในร่างกายมากที่สุด - วันที่ 8-14 อาการโควิดระยะแรก
อาการโควิดที่พบส่วนมากร้อยละ 81 มีไข้, เมื่อยล้า, ไอแห้ง เกิดอาการโควิดลงปอด เกิดจุดขาวพร่าในปอด ปอดบวม มีเพียงร้อยละ 14 ที่หายใจวิกฤติ อาการหนักเกิดภาวะแทรกซ้อนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ICU - วันที่ 12-20 อาการวิกฤติ
อาการโควิดขั้นโคม่าเกิดขึ้นเพียงร้อยละ 5 ส่วนใหญ่เกิดประมาณวันที่ 16 เกิดภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยมีอาการทรุดในระบบอื่นๆ ของร่างกายร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
อย่างไรก็ตามแพทย์จะเฝ้าระวังอาการในช่วง 10 วันแรกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีไวรัสลงปอด หรือปอดอักเสบรุนแรงในระยะที่ 2
ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดิมหรือใหม่ เชื้อยังคงแพร่ผ่านสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิดทุกสายพันธุ์ คือ
- สวมหน้ากากอนามัย
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- รักษาระยะห่างกับผู้อื่น
- ไม่ชุมนุมหรือรวมกลุ่มกัน
- ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยเร็ว เพื่อควบคุมสายพันธุ์ปกติ
การมีวินัยในตนเองจะส่งผลดีต่อทั้งตัวเรา และผู้อื่นร่วมกับการคอยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา