หลายคนมีข้อสงสัยว่าถ้าเป็นโรค SLE หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรืออาจจะเคยได้ยินคนเรียกชื่อโรคนี้ว่าโรคพุ่มพวง จะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ไหม เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มโรคนี้ ถือเป็นกลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ทำความรู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE
โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยภูมิคุ้มกันของคน ๆ นั้นทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างกายของตัวเองจนเกิดการอักเสบเรื้อรังและสามารถทำให้เกิดความผิดปกติกับอวัยวะได้ทั่วร่างกาย หรือเกิดอาการต่าง ๆ เช่น ผื่นแพ้แดด ถ้ามีอาการรุนแรง อาจทำลายอวัยวะภายในที่สำคัญ เช่น ไต หัวใจ ปอด และระบบประสาท อาการของโรคคือจะเป็นๆ หายๆ มีการกำเริบและสงบลงเป็นระยะ มักพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคได้ เพียงแต่พบได้จากทางพันธุกรรม รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เกิดโรคได้ เช่น การติดเชื้อ ยา แสงแดด สารเคมีในสิ่งแวดล้อม
อาการของผู้ที่เป็นโรค SLE
สำหรับอาการของโรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) นี้จะแสดงความผิดปกติในร่างกายหลายระบบร่วมกัน เช่น ผื่นโรค SLE ระบบผิวหนัง ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด กล้ามเนื้อและข้อ เม็ดเลือด ไต ระบบทางเดินหายใจ ผมร่วง เป็นต้น ทำให้เวลาแสดงออกจะหลากหลาย และมีความรุนแรงแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน ตั้งแต่อาการที่ไม่รุนแรง เช่น มีผื่น ปวดข้อ ไปจนถึงอาการที่มีความรุนแรงถึงเสียชีวิต เช่น ไต เยื่อหุ้มปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ ดังนั้น การดูแลรักษาผู้ป่วยแต่ละรายจึงมีความแตกต่างกัน
คำถาม : ผู้ป่วยที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ไหม
คำตอบ : มีคำแนะนำจากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา และสิงค์โปร์ ว่าสำหรับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกราย รวมถึงญาติที่อยู่ในบ้านเดียวกัน
คำถาม : ผู้ป่วยที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ควรฉีดเลือกวัคซีนยี่ห้อไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
คำตอบ : สามารถฉีดได้ทุกยี่ห้อ
คำถาม : ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อไหร่
คำตอบ : ควรฉีดเมื่อโรคสงบ หรือสามารถควบคุมโรคได้
คำถาม : ฉีดวัคซีนโควิด-19 จะมีผลทำให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบหรือเปล่า
คำตอบ : จากการศึกษาข้อมูลของผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน หลังฉีดวัคซีนแล้วพบว่าไม่มีอาการกำเริบของแต่อย่างใด ส่วนโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนก็จะเหมือนกับบุคคลทั่วไป
คำถาม : การใช้ยาของผู้ป่วย SLE ก่อนและหลังการฉีดวัคซีนควรเป็นอย่างไร
คำตอบ : ไม่จำเป็นต้องหยุดยาก่อนฉีดวัคซีน หลังฉีดวัคซีนควรหยุดยาเมทโธเทร็กเซต โทฟาซิทินิบ บาริซิทินิบ อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อกระตุ้นให้ภูมิหลังฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่ได้รับยาริทักซิแมบ ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังจากรับยา 5-6 เดือนที่ได้รับยาครั้งสุดท้าย เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนเข้ารับวัคซีนโควิด-19
ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
