อาการ “ปวดท้องน้อยตรงกลาง” — รู้จัก สาเหตุ และแนวทางรักษา เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

อาการ ปวดท้องน้อยตรงกลาง เป็นคำค้นหนึ่งที่ผู้ป่วยมักใช้เมื่อรู้สึกเจ็บในช่องท้องล่างบริเวณกึ่งกลาง (ใต้สะดือถึงหัวหน่าว) บ่อยครั้งผู้ป่วยอาจไม่แน่ใจว่าอาการนี้มาจากระบบใด — ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบทางเดินอาหาร หรือระบบสืบพันธุ์ ในบทความนี้เราจะช่วยให้คุณเข้าใจถึง สาเหตุที่พบบ่อย วิธีประเมินอาการ และแนวทางการรักษาเบื้องต้น

ทำไมถึงปวดท้องน้อยตรงกลาง? — บริเวณ อวัยวะ และ “จุดสำคัญ”

ก่อนจะเข้าสู่สาเหตุและแนวทางรักษา เราควรเข้าใจก่อนว่า บริเวณ ท้องน้อยตรงกลาง ครอบคลุมถึงอวัยวะและโครงสร้างสำคัญ เช่น

  • กระเพาะปัสสาวะ
  • ท่อไต / ระบบทางเดินปัสสาวะ
  • มดลูก / รังไข่ / ท่อนำไข่ (ในผู้หญิง)
  • ลำไส้ใหญ่ช่วงปลาย / ลำไส้เล็ก / ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
  • กล้ามเนื้อผนังช่องท้อง, เส้นประสาท

การแบ่งลักษณะอาการจะช่วยให้ตีกรอบสาเหตุได้ เช่น ปวดหน่วง ปวดเสียด ปวดจี๊ด เบื่ออาหาร ร่วมกับอาการอื่น ๆ เป็นต้น

สาเหตุยอดฮิตของอาการปวดท้องน้อยตรงกลาง

นี่คือกลุ่มสาเหตุที่มักพบได้บ่อย พร้อมจุดสังเกตที่ช่วยแยกแยะ:

ระบบทางเดินปัสสาวะ / ระบบทางเดินปัสสาวะล่าง

  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis / UTI)
    มักมีอาการ ปวดเสียดปัสสาวะ แสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะสีขุ่น มีปัสสาวะปนเลือดได้ร่วมด้วย
  • นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ / นิ่วในท่อไต
    อาจปวดหน่วง ๆ หรือปวดจี๊ด มีอาการปัสสาวะกะปริบกะปรอยหรือมีเลือดในปัสสาวะ

ระบบสืบพันธุ์ (เฉพาะผู้หญิง)

  • มดลูกอักเสบ / ปีกมดลูกอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease – PID)มักมีอาการปวดท้องน้อย ร่วมกับมีไข้ ตกขาวผิดปกติ กลิ่นเหม็น
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
    เป็นสาเหตุที่นิยมถูกพูดถึงเมื่อผู้หญิงปวดเรื้อรัง ปวดรุนแรงในช่วงมีประจำเดือน หรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ซีสต์รังไข่ / ถุงน้ำรังไข่ / ท่อนำไข่บิด / รังไข่แตก
    อาจทำให้เกิดอาการปวดฉับพลัน ร้าว ปวดร้าวลงขาได้
  • ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก / แท้ง / การตั้งครรภ์ในระยะแรก
    เมื่อมีเลือดออกจากช่องคลอดร่วมกับอาการปวด เป็นสัญญาณที่ควรรีบพบแพทย์
  • ปวดประจำเดือน / ประจำเดือนผิดปกติ / กลุ่มปวดปกติ (Primary dysmenorrhea)
    เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยมักมีลักษณะปวดแบบบีบเป็นพัก ๆ ก่อนหรือในช่วงมีประจำเดือน

ระบบทางเดินอาหาร / ลำไส้

  • ลำไส้อักเสบ / ลำไส้แปรปรวน (IBS) / โรคลำไส้ใหญ่ / ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน
    มักมีอาการท้องเสีย ท้องผูก ปวดบิด อาการร่วม เช่น มีมูกเลือด ปวดท้องน้อยได้
  • เนื้องอกลำไส้ / มะเร็งลำไส้ใหญ่
    ถ้าปวดท้องน้อยร่วมกับอุจจาระมีเลือด น้ำหนักลด อ่อนเพลีย อาจต้องพิจารณาสาเหตุลุกลามมากขึ้น

สาเหตุอื่นที่ไม่ควรมองข้าม

  • กล้ามเนื้อผนังช่องท้อง / พังผืด
    อาจเกิดจากการผ่าตัดในอดีตหรือการอักเสบ ทำให้เกิดปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหว
  • ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน
    ถุงน้ำรังไข่แตก การบิดตัวของซีสต์ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานเฉียบพลัน ฯลฯ
  • ความผิดปกติระบบเลือด / ต่อมน้ำเหลือง / แผลในช่องท้อง
    แม้ไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่หากอาการไม่ลงในแนวทางปกติ ต้องพิจารณา

อาการร่วมที่ช่วยบ่งชี้ทิศทางการวินิจฉัย

การสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยจะช่วยให้แพทย์จำแนกสาเหตุได้แม่นขึ้น ตัวอย่างดังนี้:

อาการร่วม สาเหตุที่เป็นไปได้
มีไข้ หนาวสั่น อักเสบจากการติดเชื้อ (PID, UTI, ลำไส้อักเสบ)
ปัสสาวะแสบขัด / ปัสสาวะบ่อย UTI / นิ่วท่อไต
ตกขาว กลิ่นเหม็น PID / มดลูกอักเสบ / เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เลือดออกทางช่องคลอด / ช่วงไม่มีประจำเดือน ตั้งครรภ์นอกมดลูก / แท้ง / เยื่อบุโพรงมดลูกผิดที่
อุจจาระมีเลือด / มูก ลำไส้อักเสบ / เนื้องอกลำไส้
ปวดร้าวลงขา / ปวดมาที่หลัง ซีสต์รังไข่แตก / พังผืด / การกดเบียดเส้นประสาท
ปวดเพิ่มเมื่อลุกนั่ง ขยับ กล้ามเนื้อ / พังผืด / สาเหตุเฉพาะจุด

แนวทางการประเมิน & วิธีแก้ไขเบื้องต้น

  1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย

แพทย์จะถามลักษณะอาการปวด (หน่วง, จี๊ด, เป็นพัก ๆ) ความถี่ เวลาเกิด ความสัมพันธ์กับประจำเดือน / เพศสัมพันธ์ สิ่งที่กระตุ้นหรือบรรเทา จากนั้นตรวจกดท้อง ตรวจภายใน (ในผู้หญิง) และประเมินอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย

  1. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ & ภาพถ่าย
  • ตรวจปัสสาวะ (urinalysis, ปัสสาวะเพาะเชื้อ)
  • ตรวจเลือด (CBC  , CRP ,  ตับ ไต ฯลฯ)
  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง / อุ้งเชิงกราน / รังไข่ / มดลูก
  • ถ้าจำเป็น: ส่องกล้องในช่องท้อง / hysteroscopy / CT scan / MRI
  1. แนวทางการรักษา (ขึ้นกับสาเหตุ)
  • ให้ยาต้านเชื้อ (กรณีติดเชื้อ)
  • ยาบรรเทาปวด (พาราเซตามอล, NSAIDs)
  • การรักษาทางนรีเวช (เช่น ผ่าตัดซีสต์ บิด ขั้ว ฯลฯ)
  • การปรับพฤติกรรม (ดื่มน้ำมาก พักผ่อน สวมใส่เสื้อผ้าหลวม)
  • ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

เมื่อใดควรมาพบแพทย์/รักษาด่วน

ให้รีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ปวดรุนแรงมากจนทนไม่ไหว
  • มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือปัสสาวะมีเลือด
  • อาเจียนมาก หรือท้องเสียรุนแรง
  • มีไข้สูง หนาวสั่น
  • เวียนศีรษะ เป็นลม
  • ปวดร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว

เคล็ดลับการดูแลตัวเองเบื้องต้น

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ (ช่วยลดความเข้มข้นในปัสสาวะ)
  • หลีกเลี่ยงอาหารหนัก มื้อใหญ่ ลดเครื่องเทศจัด
  • ประคบร้อนบริเวณท้องน้อย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
  • ปรับพฤติกรรมการถ่าย – อย่ากลั้นอุจจาระ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด

FAQ — คำถามที่ผู้คนมักสงสัย

Q: ปวดท้องน้อยตรงกลาง อันตรายไหม?
A: ไม่ใช่ทุกอาการปวดท้องน้อยตรงกลางจะอันตราย แต่ถ้าอาการรุนแรง ร่วมกับไข้ เลือดออก หรืออาการเฉียบพลัน ควรพบแพทย์ทันที

Q: ปวดท้องน้อยตรงกลาง เป็นสัญญาณของโรคอะไรบ้าง?
A: อาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ, นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ, PID, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ซีสต์รังไข่, ลำไส้อักเสบ ฯลฯ

Q: ถ้าปวดท้องน้อยตรงกลางตอนกลางคืน ควรทำอย่างไร?
A: สามารถประคบร้อน ดื่มน้ำอุ่น เลี่ยงอาหารหนักก่อนนอน ถ้าปวดต่อเนื่องให้พบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าปวดท้องน้อยตรงกลางมาจากระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์?
A: ดูอาการร่วม เช่น ปัสสาวะผิดปกติ (แสบขัด ปัสสาวะบ่อย) → ระบบทางเดินปัสสาวะเป็นไปได้สูง, ถ้ามีตกขาว กลิ่นผิดปกติ หรือสัมพันธ์กับประจำเดือน → ระบบสืบพันธุ์อาจเป็นสาเหตุ

Q: ถ้าปวดบ่อย ๆ แต่ไม่หนัก ควรไปพบแพทย์ไหม?
A: ใช่ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะอาจเป็นโรคเรื้อรัง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ PID

อาการ ปวดท้องน้อยตรงกลาง เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่สิ่งง่าย ๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ไปจนถึงโรคทางนรีเวชที่ซับซ้อน อย่างเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือซีสต์รังไข่ หากคุณมีอาการปวดซ้ำ ตลอด หรือมีอาการร่วมที่น่าสงสัย เช่น เลือดออก ปัสสาวะแสบขัด ไข้ เราแนะนำให้ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวชทันที

เชิญเข้ารับบริการตรวจวินิจฉัยกับศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม — เราพร้อมให้คำปรึกษา บริการวินิจฉัยที่แม่นยำ และการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่อาศัยในเขตหนองแขม / กรุงเทพฯ ใกล้เคียง อย่ารอให้ปัญหาลุกลาม จองนัดเลยวันนี้เพื่อความอุ่นใจในสุขภาพสตรีของคุณ


ติดต่อ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม

02-441-6999

หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา
แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/gfpniWd1QzeZ89p97

Line