เตือนภัย “ไวรัสตับอักเสบ อี” ภัยร้ายที่มากับอาหารไม่สุก

จากกระแสข่าวที่กำลังเป็นที่สนใจในขณะนี้ กรณีนักแสดงสาวชื่อดังตรวจพบ “ไวรัสตับอักเสบ อี” (Hepatitis E) จนต้องพักงานกะทันหันเพื่อรักษาตัว ทำให้หลายท่าน โดยเฉพาะสายปิ้งย่างและหมูกระทะเกิดความกังวล และมีคำถามเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น

วันนี้ แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม จึงขอสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคนี้ เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจและสามารถป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้อง

ไวรัสตับอักเสบ อี คืออะไร?

ไวรัสตับอักเสบ อี คือ ภาวะที่ตับเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส HEV (Hepatitis E Virus) ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อแบบเฉียบพลันและมักจะหายได้เอง แต่ในบางกลุ่มเสี่ยง เช่น สตรีมีครรภ์ หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจก่อให้เกิดภาวะตับวายรุนแรงได้

ติดต่อได้อย่างไร?

การติดต่อของไวรัสตับอักเสบ อี มี 2 ช่องทางหลัก แต่ช่องทางที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทยและเกี่ยวข้องกับข่าว คือ:

  1. การรับประทานเนื้อสัตว์ดิบ หรือปรุงไม่สุก
    • เชื้อไวรัส HEV สายพันธุ์ที่พบในไทย มักเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน (Zoonotic)
    • อาหารเสี่ยงสูง: คือ เนื้อหมูดิบ, เครื่องในหมู หรือเนื้อสัตว์ป่าที่ปรุงไม่สุก
  2. การปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination) ขณะรับประทาน
    • จุดเสี่ยงของหมูกระทะ/ปิ้งย่าง: ความเสี่ยงสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ตัวร้าน แต่ อยู่ที่ “วิธีการ” รับประทานของเราเอง
    • นี่คือจุดที่คนมักพลาด คือการ ใช้ตะเกียบคู่เดียว ทั้งคีบหมูดิบลงกระทะ แล้วกลับมาคีบอาหารที่สุกแล้ว (เช่น ผัก, วุ้นเส้น) หรือคีบเข้าปากทันที ทำให้เชื้อโรคจากของดิบปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

อาการเป็นอย่างไร?

หลังจากได้รับเชื้อ (ระยะฟักตัวประมาณ 2-10 สัปดาห์) ผู้ป่วยอาจมีอาการ ดังนี้:

  • มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
  • ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา (ตำแหน่งของตับ)
  • อาการเด่นชัด (Jaundice): ตัวเหลือง ตาเหลือง
  • ปัสสาวะสีเข้ม (สีเหมือนน้ำปลาหรือชา)

(หมายเหตุ: ผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็ก อาจไม่แสดงอาการใดๆ เลยก็ได้)

การป้องกัน (สำคัญที่สุด)

เนื่องจาก “ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีวัคซีน” ป้องกันไวรัสตับอักเสบ อี การป้องกันที่ดีที่สุดคือการปรับพฤติกรรมและสุขอนามัย:

  1. “สุก” เท่านั้น: รับประทานอาหารที่ปรุงสุก 100% โดยเฉพาะเนื้อหมู (ต้องไม่เห็นสีชมพู)
  2. “แยก” ตะเกียบ: ข้อนี้สำคัญมากสำหรับสายปิ้งย่าง ควรมีตะเกียบสำหรับคีบของดิบ และตะเกียบสำหรับรับประทาน แยกกันให้ชัดเจน
  3. “ล้าง” มือเสมอ: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
  4. “ดื่ม” น้ำสะอาด: ดื่มน้ำต้มสุก หรือน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน

หากท่านมีอาการน่าสงสัย เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลียหลังรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบหรือกังวลเกี่ยวกับการทำงานของตับ สามารถเข้ามารับคำปรึกษาและตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยกับทีมแพทย์ได้

ด้วยความห่วงใย แผนกอายุรกรรมเฉพาะทาง โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม


แผนกอายุรกรรมเฉพาะทาง รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม

02-441-6999

หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

Line