ไวรัสโควิด19 ถือเป็นโรคร้ายแรงที่มีการแพร่ระบาดทั่วโลกในวงกว้าง ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่เราสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ด้วยการฉีดวัคซีนที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนจะต้องเตรียมตัวก่อนฉีดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้วัคซีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผลข้างเคียงที่จะตามมาน้อยลง
ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19 ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน
- ต้องไม่มีอาการไข้ หรือเจ็บป่วย หากมีอาการเจ็บป่วยควรรักษาตัวให้หายก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากหากสุขภาพไม่แช็งแรง ร่างกายอาจตอบสนองต่อวัคซีนได้ไม่ดี อาจทำให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้
- ดื่มน้ำมาก ๆ หรือดื่มก่อนเข้ารับหารฉีดวัคซีนประมาณ 1 ลิตร เพื่อลดอาการหดตัวของเส้นเลือด
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัว เช่น ชา กาแฟ หรือยาไมเกรนก่อนฉีด
- สองวันก่อนฉีด และหลังฉีดงดออกกำลังกายหนัก
- หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
สิ่งที่ควรต้องแจ้งแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19
- โรคประจำตัว
- ประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีน เช่น หน้าบวม ปากบวม หน้ามืด เป็นลม ความดันต่ำหลังจากฉีดวัคซีน มีผื่นขึ้น หรือมีอาการผิดปกติจากการใช้ยาหรือฉีดวัคซีน
- การตั้งครรภ์
- ข้อมูลอื่น ๆ ที่แพทย์ควรทราบ
- ควรวัดอุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
สิ่งสำคัญเพิ่มเติม
- บัตรประจำตัวประชาชน
- วันและเวลาในการนัดฉีดวัคซีน
- ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม เพื่อติดตามการฉีดวัคซีนในครั้งต่อไป หากไม่มีสมาร์ทโฟน หรือเป็นผู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ให้
- รักษามาตราการป้องกันโควิด19 พื้นฐานอย่างเคร่งครัด คือสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
- แนะนำให้ฉีดแขนข้างที่ไม่ถนัด และหลังฉีด 2 วันอย่าใช้แขนนั้น อย่าเกร็งหรือยกของหนัก
หลังการฉีดวัคซีนโควิด19
- เมื่อฉีดวัคซีนแล้วควรสังเกตอาการที่สถานพยาบาล อย่างน้อย 30 นาที หากมีอาการข้างเคียงหลังฉีดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
- หากมีไข้ หรือปวดเมื่อยมาก ทนไม่ไหว สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มก.ครั้งละ 1 เม็ดหากยังไม่หายสามารถกินซ้ำได้ แต่ให้ห่างกัน 6 ชั่วโมง
- ห้ามกินยาพวก Brufen, Arcoxia, Celebrex เด็ดขาด
ข้อควรรระวังสำหรับกลุ่มเสี่ยง อายุ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เป็นโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง ที่จะเข้าการฉีดวัคซีนโควิด19
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหากรับประทานยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนได้รับวัคซีน
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ อัมพฤต และอัมพาต ไม่ควรหยุดยาเพื่อฉีดวัคซีน ยกวนกรณีที่แพทย์แนะนำให้หยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ผลลัพธ์ของวัคซีนมีความแม่นยำ
- ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกได้ง่าย ต้องแจ้งให้แพทย์ราบก่อนเข้ารับการฉีดวัดชีน เพราะอาจต้องใช้เวลากดแผลบริวณที่ฉีดให้นานขึ้น เช่น จาก 5 นาทีเป็น 15 นาที หรือนานกว่านั้นและหากหลังฉีดวัคซีน มีอาการห้อเลือดหรือจ้ำเลือดขึ้น ควรรีบพบแพทย์
- ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการของโรคกำเริบ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ทันที
ซึ่งวัคซีนโควิด19 มีการวิจัยมาว่าต้องฉีดอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นภูมิต้านทานที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพในการต้านทานเชื้อโรค โดยฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือบางชนิดอาจจะห่างกัน 4 สัปดาห์หรือ 6 สัปดาห์แล้วแต่วัคซีน
ฉีดวัคซีนโควิด19 แล้วไม่ได้แปลว่าจะไม่ติดเชื้อ แต่จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยรุนแรงได้ สิ่งที่ยังต้องทำตลอดเวลาคือ ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ถือเป็นวัคซีนที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิด19
ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา