วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เป็นวัคซีนที่ผลิตด้วยวิธีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า mRNA ซึ่งไม่เคยมีการผลิตวัคซีนด้วยวิธีนี้มาก่อน เป็นการจำลองสารพันธุกรรมโมเลกุล คล้ายหนามของเชื้อไวรัส หนามของไวรัสมีหน้าที่จับเซลล์ในร่างกายทำให้ติดเชื้อ mRNA มีไขมันอนุภาคนาโนห่อหุ้มอยู่ เพื่อป้องกันการย่อยสลายจากเอนไซม์ หลังจากฉีดวัคซีน mRNA เข้าไป เซลล์ในร่างกายจะกินไขมันดังกล่าว ทำให้เซลล์ผลิตสารโปรตีนที่คล้ายหนามของไวรัส โปรตีนก็จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อป้องกันไวรัส
รู้จักวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer)
วัคซีนโควิดไฟเซอร์ (Pfizer) มีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ชนิด mRNA ที่คิดค้นโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ร่วมกับบริษัทสัญชาติเยอรมันชื่อไอโบเอ็นเท็ค (BioNTech) ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 และ WHO ให้การรับรองเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 สำหรับในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอนุมัติเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ให้สามารถใช้ได้ในประเทศไทย เมื่อวัน 24 มิถุนายน 2564 นับเป็นวัคซีนโควิดรายที่ 6 ที่ผ่านการอนุมัติจาก อย.
ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์
- หลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 แล้ว จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด 19 สูงถึง 91.3% ในช่วง 7 วันถึง 6 เดือนหลังฉีด
- ป้องกันความรุนแรงของโรคได้ 100%
- ป้องกันการติดเชื้อมีอาการที่ 94%
- ป้องกันการติดโรค 96.5%
- ป้องกันการเสียชีวิต 98-100%
แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันว่า หลังจากรับวัคซีนไฟเซอร์แล้วจะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อสู่คนอื่นได้มากน้อยเพียงใด เพราะภายใน 10 วันหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก อาจยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ เนื่องจากร่างกายยังไม่สามารถสร้างแอนติบอดี้ (Antibodies) ได้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนวัดจากการทดลองทางคลินิก ซึ่งอาจมีการควบคุมกลุ่มทดลอง แต่ในการนำมาใช้กับประชากรจริง ประสิทธิภาพมีโอกาสที่จะต่ำกว่าผลที่สรุปในการทดลองเนื่องจากหลายปัจจัย เช่น การกลายพันธุ์ของไวรัส
ประสิทธิภาพต่อโควิดกลายพันธุ์
มีรายงานหลายชุดแต่โดยรวมชี้ว่าสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของ โควิดสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้ เช่น รายงานที่เผยแพร่ทาง the new england journal of medicine ชี้ว่า
- วัคซีนไฟเซอร์ สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ หรือ อัลฟ่า ได้ถึง 89.5%
- ป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ หรือ เบต้า ได้ถึง 75%
- หรืองานวิจัยของ หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ ก็ชี้ว่า ไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพ 88% ในการป้องกันการป่วยแบบมีอาการจากไวรัส เดลต้าหรืออินเดีย
วัคซีนโควิดไฟเซอร์ฉีดอย่างไร?
วัคซีนโควิดไฟเซอร์ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 21-28 วัน ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อแขนด้านบน ภูมิคุ้มกันจะเริ่มเกิดหลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้ว 12 วัน แต่ภูมิคุ้มกันจะทำงานเต็มที่หลังจากฉีดครบ 2 เข็ม
ปัจจุบันยังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงประสิทธิภาพในการป้องกันระยะยาวในกรณีที่ฉีดเข็มแรกเพียงเข็มเดียว
อายุผู้ฉีด
ผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป
ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดไฟเซอร์
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย และไม่รุนแรงของวัคซีนไฟเซอร์ มีดังนี้
- มีไข้ หนาวสั่น
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดข้อต่อ
- ท้องเสีย
- อ่อนเพลีย
- ปวด บวม หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด
โดยผลข้างเคียงเหล่านี้อาจเริ่มใน 1-2 วันหลังจากรับวัคซีน จากกลุ่มทดลองพบว่าผลข้างเคียงเกิดขึ้นหลังจากฉีดเข็มที่ 2 และควรจะหายไปในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงที่พบได้ยาก อาจมีดังนี้
- เป็นลม
- เวียนศีรษะ
- การมองเห็นผิดปกติ
- รู้สึกชาตามร่างกาย
หากมีอาการดังที่กล่าวมานี้หลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์ควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที นอกจากนี้การหาที่นั่งพัก หรือนอนราบอาจช่วยให้อาการบรรเทาลงได้
อาการแพ้วัคซีนไฟเซอร์ ถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือแพทย์ทันที อาจมีดังนี้
- มีผื่นขึ้นตามตัว
- มีอาการคัน บวม ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะใบหน้า ลิ้น และลำคอ
- เวียนศีรษะมาก
- หายใจลำบาก
อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวอาจไม่ใช่อาการทั้งหมดที่มีโอกาสเกิดได้ หากคุณมีอาการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากด้านบน ควรติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือแพทย์ทันที
ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา