วัคซีนโนวาแวกซ์ (Novavax) ถือเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวใหม่ที่หลายคนจับตามอง และเป็นหนึ่งในวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกที่ภาคเอกชนให้ความสนใจ ปัจจุบัน WHO ยังไม่ได้รับรองโนวาแวกซ์สำหรับการใช้เป็นวัคซีนฉุกเฉิน และในประเทศไทยอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำเข้ามาให้บริการในโรงพยาบาลเอกชนของประเทศไทย (ข้อมูลเดือน กรกฎาคม 2564)
วัคซีนโควิดโนวาแวกซ์ คืออะไร?
วัคซีนโควิดโนวาแวกซ์ (Novavax) หรือ NVX-CoV2373 ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
วัคซีนชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบใช้โปรตีนเบส (Protein-nanoparticle Vaccine) แทนการใช้เชื้ออ่อนหรือเชื้อที่ตายแล้ว โดยเป็นการเพาะโปรตีนใหม่ขึ้นมา และใช้ชิ้นส่วนโปรตีนของโคโรน่าไวรัสมาผลิต ร่วมกับเซลล์ของผีเสื้อกลางคืน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเซลล์ของมนุษย์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีโปรตีนส่วนหนามของไวรัสจำนวนมาก กลังจากนั้นจึงนำโปรตีนส่วนหนามของไวรัสมารวมกับสารกระตุ้นภูมิต้านทาน และฉีดเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสขึ้นมา ด้วยวิธีนี้จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่า 3,000 titers
วัคซีนโนวาแวกซ์ นอกจากจะเป็นหนึ่งในวัคซีนหลักของโครงการ COVAX ที่จะส่งให้ประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วโลก และล่าสุดยังมีรายงานผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ได้สูงถึง 90%
ข้อดีของวัคซีนโนวาแวกซ์
- วัคซีนโนวาแวกซ์ เลือกใช้โปรตีนบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนอาหารสำเร็จรูปที่เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้มีประสิทธิภาพ และร่างกายสามารถเข้าถึงสารได้ง่าย และการเลือกใช้หนามของโควิดในการทำวัคซีน ทำให้ร่างกายจดจำหนามของโควิด และสร้างแอนติบอดีขึ้นมาบริเวณโปรตีนส่วนหนาม ทำให้เชื้อโควิดไม่สามารถเกาะติดกับเซลล์ของมนุษย์ได้ ทำให้ความรุนแรงของไวรัสลดลง
- การจัดเก็บ : ไม่จำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำมาก สามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ 2-8 องศาก็สามารถเก็บรักษาได้ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่าวัคซีนประเภท mRNA อย่างไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ทำให้อาจจะเกิดปัญหาด้านการขนส่งได้
- นักวิจัยสามารถเปลี่ยนชนิดโปรตีน เพื่อรองรับไวรัสกลายพันธุ์ที่อาจดื้อยาได้ ทำให้สามารถพัฒนาวัคซีนให้มีประสิทธิภาพสู้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้
การฉีด : 2 โดส (เข็ม) โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อทั้งสองเข็ม ห่างกัน 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น ทำให้ผู้ที่ฉีดสามารถได้รับภูมิคุ้มกันค่อนข้างดี
อายุในการฉีด : สามารถฉีดได้คนที่มีอายุตั้งแต่ 18-84 ปี และสามารถฉีดได้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว
ประสิทธิภาพของวัคซีนโนวาแวกซ์
วัคซีนโควิดโนวาแวกซ์เริ่มการศึกษาทดลองระยะแรกสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 และทำการศึกษาทดลองครั้งที่ 2 และ 3 ในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย เม็กซิโก
ผลการทดลองฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรประเทศดังกล่าว พบว่าวัคซีนโนวาแวกซ์สามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดี
- ป้องกันความรุนแรงของโรคโดยรวมได้ 90.4%
- ป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้ 100%
- ป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ 96.4%
- ป้องกันเชื้อสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) ได้ 89.7%
- ป้องกันสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ได้ 55%
- สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) อยู่ระหว่างการศึกษา
ผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนโนวาแวกซ์
จะมีอาการคล้ายกับวัคซีนชนิดอื่น เช่น
- มีไข้ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- อ่อนเพลีย
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด
- บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ
ซึ่งอาการของผลข้างเคียง อาจจะต้องติดตามและศึกษาดูอีกครั้ง หลังจากได้ฉีดให้กับประชากรในจำนวนที่มากขึ้น
ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา