กำลังพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่นปลายปีนี้ แต่เพิ่งนึกได้ว่า “ลูกฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปตั้งแต่ช่วงเมษายน–พฤษภาคมแล้ว… ต้องฉีดซ้ำอีกไหม หรือภูมิยังอยู่?”
คำถามนี้เป็น “เคสจริง” ที่คุณพ่อคุณแม่ส่งมาถามคุณหมอที่ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม เยอะมากในช่วงฤดูหนาวปีนี้ บทความนี้จะช่วยสรุปให้ว่า
- ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนต้นปี อยู่ได้นานแค่ไหน
- ทำไมการไปญี่ปุ่น (ซีกโลกเหนือ) ถึงควรคิดเรื่อง สายพันธุ์วัคซีนคนละซีกโลก
- และเมื่อไหร่ควรใช้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก เป็นตัวช่วยเสริม
คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยว่า…
“น้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (แบบเข็ม) ไปแล้วช่วงเปิดเทอม (เมษายน-พฤษภาคม) ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว จะไปญี่ปุ่นต้องฉีดกระตุ้นอีกไหม? หรือภูมิคุ้มกันยังอยู่?”
วันนี้เรามีคำตอบชัดๆ พร้อมทางเลือกใหม่ที่ “ถูกใจเด็กๆ และเบาใจพ่อแม่” มาฝากครับ
Q: ฉีดไปเมื่อ 7-8 เดือนที่แล้ว ภูมิคุ้มกันยังพอสำหรับกันเชื้อที่ญี่ปุ่นไหม?
A: “แนะนำให้รับเพิ่ม (Booster) ครับ” ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ข้อที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้:
- ภูมิคุ้มกันเริ่มลดลง (Waning Immunity): โดยธรรมชาติของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภูมิคุ้มกันจะขึ้นสูงและเริ่มลดระดับลงหลังจากผ่านไป 6 เดือน การฉีดไปเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม ภูมิคุ้มกันในปัจจุบันอาจไม่สูงพอที่จะรับมือกับการระบาดหนักๆ ในต่างประเทศได้
- เชื้อคนละขั้วโลก (Strain Mismatch): วัคซีนที่เราฉีดกันช่วงหน้าฝนเมืองไทย มักเป็นสายพันธุ์ซีกโลกใต้ (Southern) แต่ที่ญี่ปุ่นตอนนี้เป็นหน้าหนาว ซึ่งมักจะระบาดด้วยสายพันธุ์ ซีกโลกเหนือ (Northern) การรับวัคซีนเพิ่มตอนนี้ จะช่วยให้ลูกได้รับภูมิคุ้มกันที่ “ตรงปก” กับเชื้อที่ระบาดในญี่ปุ่นมากที่สุดครับ
Q: จะเดินทางเร็วๆ นี้แล้ว กลัวลูกเจ็บตัวก่อนเที่ยว และกลัวภูมิขึ้นไม่ทัน ทำยังไงดี?
A: ปัญหานี้แก้ได้ด้วย “วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก” ครับ
หากคุณพ่อคุณแม่กังวลเรื่องเวลาและไม่อยากให้ลูกเจ็บตัวก่อนเดินทาง รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม ขอแนะนำทางเลือกใหม่ “วัคซีนแบบพ่นจมูก (Nasal Spray Vaccine)” ซึ่งเหมาะมากสำหรับการเป็นเข็มกระตุ้นก่อนไปญี่ปุ่น เพราะ:
✅ ภูมิคุ้มกันขึ้นไวทันใจใน 7 วัน
ต่างจากแบบฉีดที่ต้องรอถึง 2 สัปดาห์ แบบพ่นจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เร็วกว่า ทำให้พร้อมรับมือเชื้อโรคได้ทันวันเดินทางพอดี
✅ ดักจับเชื้อโรคที่ “จมูก” (Mucosal Immunity)
อากาศหนาวๆ เชื้อไวรัสมักเข้าทางจมูก วัคซีนแบบพ่นจะสร้างภูมิคุ้มกันด่านหน้า (IgA) รอไว้ที่เยื่อบุจมูกเลย เปรียบเสมือนใส่หน้ากากล่องหนที่ช่วยกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายเด็กๆ ได้ดียิ่งขึ้น
✅ No Tears, Just Cheers
ไม่ต้องงัดข้อกันเรื่องฉีดยา ไม่ต้องมีน้ำตา แค่พ่นสเปรย์เข้าจมูกซ้าย-ขวา แป๊บเดียวเสร็จ เด็กๆ แฮปปี้ พ่อแม่ก็สบายใจ
สรุปคำแนะนำจากคุณหมอ
สำหรับน้องๆ ที่มีอายุ 2 – 49 ปี และมีสุขภาพแข็งแรง แม้จะเคยรับวัคซีนมาแล้วเมื่อต้นปี หากกำลังจะเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสูงอย่างญี่ปุ่นในช่วงนี้ “การมาหยอดวัคซีนแบบพ่นจมูกเพิ่มอีกครั้ง คือความคุ้มค่าและความปลอดภัยสูงสุดครับ”
อย่าปล่อยให้ไข้หวัดใหญ่มาทำให้ทริปครอบครัวสะดุด แวะมาเติมเกราะป้องกันแบบเร่งด่วนที่ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม เพื่อให้ลูกรักเที่ยวสนุก แข็งแรงตลอดทริปนะครับ
เงื่อนไขการรับบริการ:
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 2 – 49 ปี
- ผู้รับวัคซีนต้องไม่มีอาการคัดจมูกรุนแรง หรือหอบหืดกำเริบในวันที่เข้ารับบริการ
สรุปให้เข้าใจง่าย – ลูกฉีดต้นปี ทำไมควร “บูสเตอร์” ก่อนบินญี่ปุ่น?
- ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะเริ่มลดลงหลัง 6 เดือน
- การเดินทางไปญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาว เจอ สายพันธุ์ซีกโลกเหนือ (Northern) ซึ่งอาจไม่ตรงกับวัคซีนที่ฉีดในไทยเมื่อต้นปี
- การรับวัคซีนเพิ่ม โดยเฉพาะ วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ช่วยให้
- ได้ภูมิที่สดใหม่และตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด
- ภูมิขึ้นทันก่อนเดินทาง (ประมาณ 7 วัน)
- เด็กไม่ต้องเจ็บตัวเพิ่มจากการฉีดซ้ำ
ข้อดีของวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกสำหรับเด็กก่อนเที่ยวญี่ปุ่น
- ภูมิคุ้มกันขึ้นเร็วใน 3–7 วัน เหมาะกับครอบครัวที่เดินทางด่วน
- กระตุ้นภูมิ ด่านหน้า (IgA) ที่เยื่อบุจมูก ช่วยดักเชื้อไวรัสตั้งแต่ประตูทางเข้า
- ลดดราม่า “กลัวเข็ม–ร้องไห้” เด็กยอมร่วมมือได้ง่าย
- ใช้เวลาไม่นาน ทำเสร็จได้ในการพบแพทย์ครั้งเดียว
- ใช้ได้ในเด็กตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่สุขภาพดีอายุไม่เกิน 49 ปี
เติมเกราะป้องกันให้ลูกก่อนออกเดินทาง – ไม่ให้ไข้หวัดใหญ่มาขัดจังหวะทริปในฝัน
หากลูกของคุณ
- เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เมื่อต้นปี
- กำลังจะไปญี่ปุ่นหรือประเทศที่มีหน้าหนาว
- หรือกลัวเข็ม แต่อยากมีภูมิคุ้มกันก่อนเดินทาง
สามารถนัดหมายเพื่อรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบแบบพ่นจมูกได้ที่ ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม
ดูแลสุขภาพลูกน้อยอย่างครบวงจร
ติดต่อศูนย์กุมารเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา