จะรู้ได้อย่างไรว่า..แพ้ยา

เวลาที่ไปหาคุณหมอ คำถามที่เรามักจะได้ยินบ่อย ๆ คือ “แพ้ยาอะไรหรือเปล่า” บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองแพ้ยาอะไรหรือเปล่า แต่ข้อมูลเรื่องการแพ้ยาถือเป็นข้อมูลที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ  เพราะหากแพ้ยาตัวไหน หมอจะได้ไม่สั่งยาตัวนั้นให้

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเราแพ้ยาอะไรหรือเปล่า หรือถ้าแพ้ยาแล้ว จะมีอาการอย่างไร หมอวิชัยรวมรวมรายละเอียดมาให้ครับ

ทำไมเราถึงแพ้ยา?

แพ้ยา คือปฎิกริยาตอบสนองที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านยาที่ได้รับเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการกิน ฉีด ทา และดม คล้ายการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ซึ่งอาการแพ้ยาไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะครับ

อาการเมื่อเราแพ้ยา

การแพ้ยาจะมีอาการแสดงได้หลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่แสดงให้เห็นทางผิวหนัง เช่น ผื่นแดง ตาบวม หน้าบวม ซึ่งจะมีทั้งแบบที่อาการรุนแรงและไม่รุนแรง โดยสามารถแบ่งออกเป็น  3 กลุ่มอาการใหญ่ ๆ

 

กลุ่มที่ 1 มีอาการแพ้ยาแต่ไม่รุนแรง : ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นผื่นแดง คล้ายลมพิษขึ้น หรือคันที่ผิวหนัง อาจจะเป็นที่ใบหน้า หรือมือ บางคนอาจจะตาบวม หน้าบวม

กลุ่มที่ 2 มีอาการแพ้ แบบไม่รุนแรง แต่ก็มากกว่ากลุ่มแรกมาอีกระดับหนึ่ง หรือให้เข้าใจง่าย ๆ คือกลุ่มที่มีอาการแพ้แบบปานกลาง จะเริ่มมีอาการหายใจติดขัด หรือมีอาการผื่นขึ้นทั้งตัว กลุ่มนี้ควรหยุดยาหรือหยุดสิ่งที่แพ้ทันที แล้วดื่มน้ำเยอะ ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที เพื่อบรรเทาอาการ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้แบบรุนแรง

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีอาการแพ้ยาแบบรุนแรง : อาการที่พบ

  • จะมีไข้สูง , ปวดศีรษะ ,น้ำมูกไหล, ปวดข้อ หรือมีอาการคล้ายเป็นหวัด
  • มีผื่นแดง หรือผื่นสีเข้ม ขึ้นตามตัว แขน ขา รอบ ๆ ปาก หรือบริเวณลำตัว รูปแบบผื่นอาจจะมีตั้งแต่ ผื่นแดงเป็นปื้น ๆ คัน มีตุ่มเล็ก ๆ เป็นตุ่มหนอง หรือตุ่มน้ำพองใส ๆ
  • เจ็บแสบที่ผิวหนัง หรือผิวหนังเริ่มบวม อาจมีอาการหน้าบวม แขนขาบวม ปากบวม ลิ้นบวม หรือมีอาการผิวหนังหลุดลอก
  • เจ็บบริเวณเยื่อบุอ่อน หรือแผลบริเวณเยื่อเมือก เช่น ตา ช่องปาก อวัยวะเพศ
  • บางคนอาจมีอาการใจสั่น แน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน หรือหายใจติดขัด
  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
  • มีอาการอักเสบของอวัยวะภายใน เช่น ตับอักเสบ ไตอักเสบ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นไตวาย
  • หากมีอาการรุนแรง อาจถึงขั้นเป็นลม ชีพจรเต็นเร็วและเบา ความดันโลหิตต่ำ มีอาการชัก หรือสูญเสียการรับรู้ อาจถึงขั้นหยุดหายใจ และเสียชีวิตได้

ซึ่งผู้ที่มีอาการแพ้ยารุนแรง ต้องรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วน คนที่แพ้ยาในกลุ่มนี้ มักจะเป็นการแพ้ยาในกลุ่มเพนิซิลลิน ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาฆ่าเชื้อต้านการอักเสบ หรือยาปฎิชีวนะ

อาการแพ้ยารุนแรง

จะต้องทำอย่างไร เมื่อมีอาการแพ้ยา?

หากเริ่มมีอาการ สิ่งที่ควรต้องทำ คือ

  1. หยุดยา หรือสิ่งที่แพ้ทันที และจดจำอาการแพ้ยาที่เกิดขึ้น
  2. ถ่ายรูปผื่นขณะที่มีอาการด้วยกล้องถ่ายรูป หรือโทรศัพท์มือถือ โดยเน้นให้เห็นผื่นชัดเจน เพื่อนำไปให้คุณหมอวินิจฉัย
  3. หากผื่นมีการเปลี่ยนแปลง ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ทุกครั้ง
  4. นำยาทั้งหมด พร้อมสลากยามาพบแพทย์ โดยเร็วที่สุด

สิ่งที่ต้องทำเมื่อแพ้ยา

สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยา

วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แพ้

  1. ต้องจดจำชื่อยาที่แพ้ให้แม่นยำ และพกบัตรแพ้ยาติดตัวไว้เสมอ
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ยา หรือกลุ่มของยาที่แพ้ซ้ำ เพราะยาในกลุ่มเดียวกัน มีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการแพ้เหมือนกัน ซึ่งข้อมูลนี้แพทย์ หรือเภสัชกรควรต้องได้รับข้อมูลอย่างละเอียด
  3. แสดงบัตรแพ้ยา หรือชื่อยาที่แพ้ ให้กับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งที่มาใช้บริการ และแจ้งให้แพทย์ทราบถึงอาการแพ้ และประวัติการรักษา
  4. หรือถ้าเกิดคุณหมอถามว่า เราแพ้ยาอะไรหรือเปล่า แล้วเราไม่เคยแพ้ยามาก่อน สิ่งที่ควรตอบคุณหมอ คือ “ไม่ทราบว่าแพ้ยาอะไร” เพราะเนื่องจากปัจจุบันเราไม่แพ้ยา แต่เราไม่รู้ว่าตอนเด็กๆ เรามีอาการแพ้ยาอะไรหรือเปล่า เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เคยแพ้ยา ให้ตอบว่า “ไม่ทราบ” หรือ “ไม่รู้” เพื่อคุณหมอจะได้ให้ความระวังในการให้ยา หากเราตอบว่าไม่แพ้ คุณหมอก็จะสรุปว่าเราไม่ได้แพ้ยา สามารถให้ยาอะไรก็ได้ ซึ่งกรณีนี้ก็อาจจะเกิดอาการแพ้เกิดขึ้นได้

 

สิ่งที่ผู้มีประวัติแพ้ยาต้องรู้

อาการแพ้ยาไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เราทุกคนจะระวังตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นนอกจากคอยสังเกตุตัวเอง รีบพบแพทย์เมื่อมีอาการ จดจำชื่อยาที่ตัวเองแพ้ให้แม่นยำ บอกคนใกล้ชิดหรือคนรอบตัวเรื่องการแพ้ยา หากเกิดภาวะฉุกเฉินจะได้แก้ไขปัญหาได้ทันครับ

 

ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
 02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

Line