คุณเคยรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งๆ ที่นอนหลับเต็มที่หรือไม่? หรือคุณนอนกรนเสียงดังจนคนรอบตัวต้องเตือนบ่อยๆ? สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกินหรือมีปัญหาทางเดินหายใจตีบตัน ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างมาก เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และอาการเหนื่อยล้าตลอดวัน หากไม่ได้รับการรักษา ดังนั้น การรู้ว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันภาวะเสี่ยงต่อสุขภาพ
สัญญาณและอาการที่บ่งบอกถึงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การรู้ว่าคุณหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่ อาจเริ่มจากการสังเกตอาการเหล่านี้
- นอนกรนเสียงดัง : หากคุณนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ โดยเฉพาะหากมีการหยุดแล้วกรนใหม่เป็นช่วง ๆ อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดวัน : หากคุณรู้สึกง่วงหรือเหนื่อยล้าตลอดเวลา แม้จะนอนเต็มที่ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณมีปัญหาการหายใจขณะหลับ
- ตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง : หากคุณตื่นกลางดึกเพื่อหายใจเข้าออกลึกๆ หรือรู้สึกเหมือนขาดอากาศ อาจเป็นสัญญาณของภาวะนี้
- ปวดหัวตอนเช้า: การปวดหัวในตอนเช้าอาจเกิดจากการขาดออกซิเจนขณะหลับ ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ตื่นแล้วรู้สึกไม่สดชื่น: หากรู้สึกเหมือนการนอนไม่เพียงพอหรือนอนไม่เต็มที่แม้จะนอนหลายชั่วโมง อาจบ่งบอกถึงปัญหาการหายใจขณะหลับ
วิธีวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
หากคุณสงสัยว่าคุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ แพทย์จะทำการประเมินและอาจแนะนำการทดสอบดังนี้
- การตรวจร่างกายและการประเมินอาการเบื้องต้น: แพทย์จะทำการซักประวัติทางการแพทย์และตรวจร่างกายเพื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่ เช่น การตรวจช่องปากและลำคอเพื่อดูว่ามีสิ่งที่อาจขัดขวางทางเดินหายใจหรือไม่ แพทย์อาจถามถึงอาการที่สังเกตได้จากคนในครอบครัว เช่น การหยุดหายใจขณะหลับหรือนอนกรนเสียงดัง
- การใช้แบบสอบถามประเมินความง่วงนอน: แพทย์อาจใช้แบบสอบถาม เช่น “Epworth Sleepiness Scale” เพื่อประเมินระดับความง่วงนอนในช่วงกลางวัน ซึ่งจะช่วยบ่งบอกถึงปัญหาการนอนหลับและความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)การทดสอบการนอนหลับ เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยจะมีการบันทึกข้อมูลต่างๆ ระหว่างการนอน เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือด การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และการทำงานของคลื่นสมอง การทดสอบนี้จะทำในโรงพยาบาลหรือศูนย์การนอนหลับโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับกี่ครั้ง และความรุนแรงของภาวะนี้เป็นอย่างไร
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
หากคุณหรือคนรอบตัวสังเกตเห็นอาการที่น่าสงสัย เช่น นอนกรนเสียงดัง หยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะหลับ หรือตื่นเช้ามาพร้อมกับอาการเหนื่อยล้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการประเมิน แพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจช่วยลดอาการ เช่น ลดน้ำหนัก เปลี่ยนท่านอน หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) เพื่อช่วยรักษาการหายใจให้เป็นปกติขณะหลับ
การตรวจวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม
เราพร้อมให้บริการที่ครอบคลุม เพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ
บริการของเรา
1. การตรวจวินิจฉัย: ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิเช่น การตรวจประเมินการนอนหลับ (Sleep Test) เราสามารถระบุสาเหตุและความรุนแรงของปัญหาการนอนหลับของท่านได้อย่างแม่นยำ
2. วางแผนการรักษา: หลังจากการวินิจฉัยที่ละเอียดถี่ถ้วน เราจะจัดทำแผนการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจประกอบด้วย:การใช้ยา เพื่อช่วยในการนอนหลับ หรือบรรเทาอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ เพื่อสร้างสุขนิสัยการนอนที่ดี
- การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวกชนิดต่อเนื่อง (CPAP) สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การผ่าตัด ในกรณีที่จำเป็นและเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาทางกายภาพที่เป็นสาเหตุของการนอนหลับผิดปกติ
3. ติดตามผลและให้คำแนะนำ: เราไม่เพียงแต่ให้การรักษา แต่ยังให้ความสำคัญกับการติดตามผลการรักษาและให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้ท่านสามารถบรรลุและรักษาสุขภาพการนอนที่ดีในระยะยาว
หากท่านกำลังประสบปัญหาการนอนหลับ ติดต่อคลินิกสุขภาพการนอนหลับ เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้การดูแลท่านอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านกลับมามีสุขภาพการนอนที่ดี และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติอต่อ คลินิกสุขภาพการนอนหลับ
รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา