ไขข้อสงสัย “ต่อมอะดีนอยด์โต” วินิจฉัยอย่างไร?

“ลูกนอนกรน หายใจทางปาก เป็นหวัดบ่อย จะใช่ต่อมอะดีนอยด์โตไหมนะ?” เสียงสะท้อนจากพ่อแม่หลายท่านที่กำลังกังวลใจ ยิ่งนึกถึงภาพลูกน้อยต้องเจ็บตัวตอนตรวจ ก็ยิ่งทำให้กังวลใจมากขึ้น บทความนี้จะช่วยคลายความกังวลใจของคุณพ่อคุณแม่ พร้อมไขข้อสงสัยเรื่องการวินิจฉัยต่อมอะดีนอยด์โตในเด็ก

สัญญาณเตือน! ลูกน้อยอาจกำลังเผชิญกับ “ต่อมอะดีนอยด์โต”

ต่อมอะดีนอยด์ คือเนื้อเยื่อคล้ายต่อมทอนซิล อยู่ด้านหลังโพรงจมูก ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรค แต่หากมีขนาดใหญ่เกินไป จะขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น

  • นอนกรนเสียงดัง  โดยเฉพาะเมื่อนอนหงาย บางรายอาจมีเสียงหายใจ วี๊ดๆ ร่วมด้วย
  • หายใจทางปาก: เนื่องจากหายใจทางจมูกไม่สะดวก อาจทำให้ปากแห้ง ริมฝีปากแตก ได้
  • มีอาการง่วงนอนตอนกลางวัน ผลการเรียนไม่ดี สมาธิสั้น
  • น้ำมูกไหลบ่อย: มักเป็นน้ำมูกข้นเหนียว มีสีเหลืองหรือเขียว บางครั้งมีกลิ่นเหม็น
  • คัดจมูกเรื้อรัง: ทำให้หายใจไม่ออก นอนหลับไม่สนิท
  • ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อยครั้ง: เช่น หวัด ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ
  • มีอาการภูมิแพ้ ใช้ยาแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น
  • พูดเสียงอู้อี้: เนื่องจากโพรงจมูกถูกปิดกั้น ทำให้เสียงพูดไม่ชัดเจน
  • ใบหน้าเปลี่ยนแปลง: เช่น ใบหน้ายาว ฟันยื่น คางเล็ก เกิดจากการหายใจทางปากเป็นเวลานาน
  • หยุดหายใจขณะหลับ: เป็นอาการที่อันตรายมาก อาจทำให้สมองขาดออกซิเจน ส่งผลต่อพัฒนาการ

คุณหมอวินิจฉัย “ต่อมอะดีนอยด์โต” อย่างไร? ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด!

คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลว่า การตรวจวินิจฉัยต่อมอะดีนอยด์โต จะทำให้ลูกน้อยเจ็บ แต่ความจริงแล้ว การตรวจวินิจฉัยไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แพทย์จะเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละราย โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และลดความเจ็บปวด เช่น

  1. ซักประวัติและตรวจร่างกาย: แพทย์จะสอบถามอาการอย่างละเอียด เช่น ลักษณะการนอนกรน การหายใจ น้ำมูก มีไข้หรือไม่ และตรวจร่างกาย เช่น การดูโพรงจมูกด้วยไฟฉาย การฟังเสียงปอด
  2. ส่องกล้องตรวจโพรงจมูก: แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็ก สอดผ่านรูจมูก เพื่อดูขนาดและตำแหน่งของต่อมอะดีนอยด์ โดยก่อนส่องกล้อง อาจมีการพ่นยาชา เพื่อลดอาการระคายเคือง
  3. เอกซเรย์: เป็นการถ่ายภาพรังสี เพื่อดูขนาดของต่อมอะดีนอยด์ และอวัยวะข้างเคียง เช่น ไซนัส ช่องหู โดยทั่วไป การเอกซเรย์มีความปลอดภัย และไม่ทำให้เจ็บ
  4. การตรวจการนอนหลับ (Sleep study): ใช้ในกรณีที่สงสัยว่าเด็กมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยให้เด็กนอนหลับในห้องปฏิบัติการ และมีการติดเครื่องมือตรวจวัด เช่น คลื่นไฟฟ้าสมอง การหายใจ ระดับออกซิเจน

การรักษา เพื่อคืนการนอนหลับที่สุขสงบให้ลูกน้อย

  • การรักษาด้วยยา: เช่น ยาพ่นจมูก ยาลดบวม ยาแก้แพ้ เพื่อลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล
  • การผ่าตัด: แพทย์จะพิจารณาผ่าตัด ในกรณีที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง เช่น หยุดหายใจขณะหลับ การผ่าตัด เป็นการนำต่อมอะดีนอยด์ออก โดยใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว

คำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อดูแลลูกน้อย

  • ต่อมอะดีนอยด์โต เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะช่วงอายุ 3-6 ปี
  • หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ ปัญหาด้านพัฒนาการ การเจริญเติบโต
  • การวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้ลูกน้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อย่าปล่อยให้ความกังวลใจ มาบดบังสุขภาพของลูกน้อย หากสงสัยว่าลูกมีอาการของต่อมอะดีนอยด์โต ควรพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

 

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้แล้ววันนี้
เพื่อรับคำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับลูกของคุณ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

Line