ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร

ช่วงสถานการณ์โควิดระบาด หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า เมื่อฉีดวัคซีนไปแล้ว ร่างกายของเรามีระดับภูมิคุ้มกันมากน้อยแค่ไหน และภูมิคุ้มกันที่มีในร่างกาย สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้หรือเปล่า คุณกมลทิพย์ อุณอนันต์ หัวหน้าแผนกห้องปฎิบัติการเทคนิคการแพทย์ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 มาให้ได้ทราบกันครับ

ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่เรียกว่า IgG ย่อมาจาก Immunoglobulin G เป็นภูมิคุ้มกันที่สามารถไปจับกับหนามของไวรัส ทำให้ไวรัสไม่ทำงาน หรือทำให้เกิดการติดเชื้อลดลง เพราะฉะนั้นการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายแบบที่ 1 คือการตรวจที่เรียกว่า Quantitative IgG เป็นการตรวจภูมิคุ้มกันในลักษณะเชิงปริมาณ เพื่อจะได้รู้ว่าหลังจากที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ภูมิคุ้มกันในร่างกายมีอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ โดยสามารถมาตรวจได้ตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงที่สุด

วิธีที่ใช้ในการตรวจที่ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม จะใช้หลักการ ELISA หน่วยเป็น BAU/ml ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานที่ WHO แนะนำ การรายงานผล จะรายงานเป็นค่าตัวเลข

  • ถ้าผลออกมามากว่า 35.2 BAu/ml จะเรียกว่าเป็น Positive คือมีภูมิคุ้มกันอยู่ในร่างกาย
  • แต่ถ้าผลออกมา 35.2 BAu/ml ผลก็จะเป็นลบ เท่ากับไม่มีภูมิในการป้องกัน

แบบที่ 2 คือการตรวจเพื่อดูประสิทธิภาพการต้านทานเชื้อโควิด-19 หรือ Neutralizing Antibody เป็นการดูประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันที่มีในร่างกายว่าสามารถมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้หรือไม่ หรือเพื่อดูว่าภูมิคุ้มกันที่มีในร่างกาย สามารถทำงานได้ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์

ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าเราตรวจภูมิคุ้มกันอยู่ที่ประมาณ 10,000 เมื่อเข้ารับการตรวจ Neutralizing Antibody ได้ 50% หมายความว่า ในภูมิคุ้มกัน 10,000 มีภูมิคุ้มกันที่สามารถใช้งานได้ดีเพียง 5,000 เท่านั้น

เพราะฉะนั้นแนะนำหากต้องการตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แนะนำให้ตรวจทั้ง Quantitative IgG และตรวจทั้ง Neutralizing Antibody ควบคู่กัน คือตรวจทั้งดูปริมาณภูมิทั้งหมด และดูประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันที่มีในร่างกาย

ทำไมถึงต้องตรวจระดับภูมิคุ้มกัน

เพื่อให้เราสามารถวางแผนการดำเนินชีวิต หรือวางแผนการรับวัคซีนในเข็มต่อ ๆ ไป เนื่องจากหากร่างกายมีระดับภูมิคุ้มกันที่มากพอ ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อ ที่ทำให้เกิดอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้

การตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันเหมาะกับใคร ใครบ้างควรตรวจ

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการรู้ประมาณภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อวางแผนการใช้ชีวิต หรือการเข้ารับวัคซีนในเข็มถัดไป
  • สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วและต้องการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน ควรตรวจหลังจากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และควรทิ้งระยะหลังจากที่ได้รับวัคซีนประมาณ 14 วันหรือ 2 สัปดาห์ เพื่อที่ให้ร่างกายเกิดการกระตุ้นและสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ถึงจะสามารถวัดระดับภูมิคุ้มกันได้
  • ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 สามารถตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ หลังจากที่รักษาหายแล้วประมาณ 1 เดือน

ข้อมูลเบื้องต้นคาดว่าระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงหลังจาก 4-6 เดือนไปแล้ว แนะนำควรตรวจซ้ำ เพื่อตรวจสอบปริมาณและประสิทธิภาพของระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายว่าเหลืออยู่ที่เท่าไหร่ และเราควรกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีนเข็มต่อไปหรือไม่อย่างไร

 

ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
 02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

 

Line