ไขข้อข้องใจวัคซีนโควิด19

จากที่หลายฝ่ายออกมารณรงค์นะครับว่าอยากให้คนไทยทุกคนฉีดวัคซีนโควิด  เพราะนอกจากจากจะช่วยป้องกันการติดโควิด 19 ลดความรุนแรงหากติดเชื้อ ยับยั้งการแพร่ระบาด ยังเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งไม่ได้ช่วยแค่ตัวเราเอง แต่ช่วยคนรอบข้างและสามารถช่วยให้ประเทศเราสามารถผ่านวิกฤติโควิดนี้ไปได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มั่นใจการฉีดวัคซีน เรามาไขข้องข้องใจเกี่ยวกับความสงสัยเรื่องวัคซีนโควิดกันครับ

Q : ฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนโควิด ตัดสินใจอย่างไรดี

A : ฉีดวัคซีนดีกว่าไม่ฉีดอยู่แล้ว คนที่ได้โอกาสฉีดวัคซีนโควิดก่อนถือว่าได้รับโอกาสที่จะป้องกันตัวเองได้อย่างดีที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าลังเล ควรรีบลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน หากไม่ฉีดก็จะติดโรคเพิ่มขึ้น แต่หากฉีด แม้ป้องกันได้ไม่ 100% ก็ยังป้องกันได้ต่างจากไม่มีเลย และเมื่อป่วยแล้วส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง

 

Q : ยังไม่อยากไปฉีดวัคซีนโควิดตอนนี้ อยากรอก่อน ถึงเวลาที่วัคซีนโควิดที่ประสิทธิภาพดีกว่านี้เข้ามา มาค่อยไปฉีด

A : แนะนำว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนโควิด19 ยี่ห้อไหน อยากให้ฉีดไปก่อน เพราะถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อและมีอาการน้อย ไม่แพร่เชื้อของวัคซีนแต่ละยี่ห้อประสิทธิภาพจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันความรุนแรงจากการติดเชื้อ การเสียชีวิตจากการติดเชื้อ หรือป่วยหนักจนต้องเข้า ICU 100% ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้เหมือนกัน ไม่ต้องกังวล เพราะฉะนั้นวันนี้มีวัคซีนโควิด19 ยี่ห้อไหนขอให้ฉีดไปก่อน ไม่ต้องรอ ไม่อย่างนั้นโอกาสที่เราอาไปติดเชื้อและมีความเสี่ยงอาจมีมากกว่า

 

Q: ใครที่ควรได้รับวัคซีนโควิด19 ในช่วงนี้บ้าง

A: ผู้ที่ควรได้รับวัคซีนในช่วงแรกนี้ได้แก่

  1. ผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี รวมถึงผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ใด้แก่ โรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง, โรคหัวใจและหลอดเลือด,โรคไตเรื้อรัง,โรคหลอดเลือดสมอง,โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด, โรคเบาหวาน และโรคอ้วนทีมีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
  3. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
  4. กลุ่มอาชีพการให้บริการที่มีความเสี่ยง

 

Q: เมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถติดเชื้อโควิด19 ได้อีกหรือไม่?

A : เมื่อฉีดวัคซีนโควิด19 แล้วก็อาจจะยังสามารถติดเชื้อโควิด19 ได้หากไม่ระมัดระวังหรือดูแลตัวเองตามมาตรการป้องกันโควิด19 อย่างเคร่งครัด เนื่องจากวัคซีนไม่ได้ป้องกันอาการป่วย 100% แต่จะช่วยลดอัตราความรุนแรงของโรค และลดอัตราการเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด19

 

Q: อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด19 มีอะไรบ้าง?

A: อาการที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด มีอาการบวม แดง หรือร้อน บริเวณที่ฉีด มีไข้ ปวดเมื่อย ใจสั่น อ่อนเพลีย มึนงง เวียนศีรษะ มักเกิด 1-2 วันหลังรับวัคซีน และไม่รุนแรง สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มต่อไปได้

 

Q: การแพ้วัคซีน หรือส่วนประกอบของวัคซีนคืออะไร?

A: การแพ้วัคซีนเกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ  ซึ่งอาการแพ้สามารถมีความรุนแรงได้หลายระดับ อาการแพ้รุนแรง เช่น มีอาการความดันเลือดตก  มีผื่นลมพิษ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด เป็นลม หมดสติ ปวดท้อง ท้องเสีย มักแสดงอาการภายใน 30 นาทีหลังจากได้รับวัคซีน หรือบางรายอาจจะมีอาการภายใน 24 ชั่วโมง

***หากเกิดการแพ้วัคซีนชนิดรุนแรง  ห้ามรับวัคซีนชนิดเดิมในครั้งต่อไป**

 

Q : ข้อความระวังในการฉีดวัคซีน มีอะไรบ้าง?

A :  ควรฉีดในสถานพยาบาลที่มี่ความพร้อมรับมืออาการแพ้รุนแรง และควรเฝ้าระวังหลังฉีดวัคซีนโควิด19 อย่างน้อย 30 นาที

 

Q: หากมีประวัติแพ้ยา อาหาร หรือสารก่อภูมิแพ้อื่นมาก่อนจะรับวัคซีนโควิด19 ได้หรือไม่?

A: หากอาการแพ้ คือมีผื่นอย่างเดียวที่ไม่รุนแรง สามารถรับวัคซีนโควิด19 ได้ โดยอาจกินยากลุ่มต้านฮีสตามีน ที่ไม่ทำให้ง่วงนอน เช่น ลอราตาดีน หรือเซทิริซีน ก่อนฉีดวัคซีน 30 นาที ทางที่ดีควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ให้ทราบหากมีประวัติแพ้ยา อาหาร หรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ก่อนการฉีดวัคซีน

 

Q: หากได้รับวัคซีนโควิด19 ครบโดสแล้ว จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันยาวนานแค่ไหน?

A : ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเมื่อได้รับวัคซีนครบโดสแล้วต้องฉีดซ้ำหรือไม่ ทั้งนี้การที่ต้องฉีดวัคซีนโควิด19 ซ้ำหรือไม่ขึ้นกับ

  1. ภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน ถ้าภูมิคุ้มกันลดลงจนถึงเกณฑ์ที่ป้องกันโรคไม่ได้ ก็ต้องฉีดซ้ำ
  2. การกลายพันธุ์ของไวรัส ถ้าไวรัสกลายพันธุ์ เท่ากับว่าวัคซีนที่เราฉีดไปครั้งแรก ก็สามารถป้องกันแค่ไวรัสชนิดเดิม แต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสที่กลายพันธุ์ได้ ก็ต้องมีการฉีดวัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์นั้น ๆ

 

Q: ใครบ้างที่ยังไม่ควรรับวัคซีนโควิด19 ในช่วงนี้

A : คนที่ไม่ควรรับวัคซีนได้แก่ ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนรุนแรง เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สำหรับสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร สตรีที่ไม่มั่นใจว่าตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์

 

Q: ถ้ายังไม่ได้รับวัคซีนโควิด19 ในช่วงนี้ควรปฎิบัติตัวอย่างไร?

A: ควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ด้วยการไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาถ้าไม่ได้อยู่คนเดียว ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างกับบุคคลอื่น 1-2 เมตร ทำความสะอาดเครื่องใช้เป็นประจำ และหมั่นสังเกตอาการของตัวเอง หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อยผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์

 

Q: ทำไมถึงไม่ฉีดวัคซีนโควิด19 ให้กับเด็ก

A: เนื่องจากยังไม่มีผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนในเด็กที่ชัดเจน จากสถิติเด็กเมื่อติดโควิด19 จะมีอาการไม่รุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด19 ต่ำมาก มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่ถึง 3 เท่า เพราะฉะนั้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี คาดว่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับวัคซีน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องดูแลบุตรหลานตามมาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด

 

Q : คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีนโควิด19 ได้หรือไม่?

A : เนื่องจากข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิดสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ยังมีจำกัด อีกทั้งยังไม่มีผลการทดลองในกลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารับการทดสอบวัคซีนโควิด 19

 

ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจึงยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 เว้นแต่แม่ที่ตั้งครรภ์และมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อควรมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินระหว่างความรุนแรงที่เกิดขึ้นหากติดเชื้อ กับอาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนก่อนตัดสินใจ

ดูแลร่างกายให้พร้อม เพื่อสุขภาพที่ดี
ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ติดต่อ ศูนย์ตรวจสุขภาพ รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
 02-441-6999
หรือ ติดต่อได้ผ่านช่องทางไลน์ได้ง่ายๆ  Line
หรือ สามารถตรวจเช็ค ตารางแพทย์ออกตรวจ เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษา

Line